“กระดาษลัง” เป็นคำที่คนไทยคุ้นเคยและมักใช้เรียกกล่องกระดาษสีน้ำตาลที่ใช้ในการขนส่งหรือบรรจุสินค้า แต่ในทางเทคนิคแล้ว “กระดาษลัง” หมายถึง กระดาษลูกฟูก (Corrugated Paperboard) ซึ่งเป็นวัสดุหลักในการผลิตกล่องเหล่านั้น กระดาษลูกฟูกจึงเป็นวัสดุบรรจุภัณฑ์ที่สำคัญอย่างยิ่งในปัจจุบัน
บทความนี้จะพาไปทำความเข้าใจว่ากระดาษลูกฟูกคืออะไร มีประวัติความเป็นมาอย่างไร มีคุณสมบัติและประโยชน์ด้านใดบ้าง รวมถึงประเภทต่างๆ ที่นิยมใช้กัน
หัวข้อย่อยมีอะไรบ้าง ?
กระดาษลัง หรือ กระดาษลูกฟูก คืออะไร? ทำมาจากอะไร?
กระดาษลูกฟูก (Corrugated Paperboard) คือ วัสดุแผ่นที่เกิดจากการประกอบแผ่นกระดาษเรียบ (Linerboard) ตั้งแต่ 2 แผ่นขึ้นไป เข้ากับแผ่นกระดาษที่ขึ้นรูปเป็นลอนคลื่น (Corrugating Medium หรือ Fluting) อย่างน้อย 1 ชั้น โดยใช้กาวเป็นตัวยึดติด (ส่วนใหญ่มักใช้กาวแป้งเปียก – Starch-based adhesive)
โครงสร้างแบบแซนวิชนี้เองที่ทำให้กระดาษลูกฟูกมีคุณสมบัติพิเศษ คือ มีความแข็งแรงสูง สามารถรับแรงกดทับและแรงกระแทกได้ดี แม้จะมีน้ำหนักเบา
ส่วนประกอบหลัก
- กระดาษทำผิวกล่อง (Linerboard) : คือแผ่นกระดาษเรียบด้านนอกและด้านใน มักทำจากกระดาษคราฟท์ (Kraft Paper) ซึ่งมีความเหนียวและแข็งแรง อาจทำจากเยื่อบริสุทธิ์ (Virgin Fiber) หรือเยื่อรีไซเคิล (Recycled Fiber)
- กระดาษทำลอนลูกฟูก (Corrugating Medium/Fluting) : คือแผ่นกระดาษที่อยู่ตรงกลาง ถูกดัดให้เป็นลอนคลื่น ทำหน้าที่เหมือนโครงสร้างคาน ช่วยรับแรงกดและแรงกระแทก ส่วนใหญ่ทำจากเยื่อรีไซเคิล
กระบวนการผลิตจะเริ่มจากการให้ความร้อนและความชื้นแก่กระดาษทำลอน แล้วจึงผ่านลูกกลิ้งโลหะที่เป็นร่อง (Corrugating Rolls) เพื่อขึ้นรูปเป็นลอน จากนั้นทากาวที่สันลอน แล้วจึงประกบด้วยกระดาษทำผิวกล่อง
ประวัติย่อของกระดาษลูกฟูก
แนวคิดการใช้กระดาษลูกฟูกเกิดขึ้นในศตวรรษที่ 19
- ปี 1856 : ชาวอังก
ฤษจดสิทธิบัตรกระดาษลูกฟูก (ยังไม่มีแผ่นเรียบประกบ) สำหรับใช้เป็นซับในหมวกทรงสูง
- ปี 1871 : ชาวอเมริกันจดสิทธิบัตรกระดาษลูกฟูกที่มีแผ่นเรียบประกบหนึ่งด้าน (Single Face) เพื่อใช้ห่อหุ้มขวดโหลหรือวัตถุแตกง่าย
- ปี 1874 : มีการพัฒนาเป็นกระดาษลูกฟูก 3 ชั้น (Single Wall) ที่มีแผ่นเรียบประกบสองด้าน ทำให้แข็งแรงพอที่จะนำมาทำเป็นกล่องสำหรับขนส่งได้
ปลายศตวรรษที่ 19 Robert Gair ชาวสกอตแลนด์ในสหรัฐฯ ค้นพบวิธีการตัดและพับกล่องกระดาษได้ในขั้นตอนเดียวโดยบังเอิญ ทำให้การผลิตกล่องกระดาษ (รวมถึงกล่องลูกฟูก) มีประสิทธิภาพสูงขึ้นและเป็นที่แพร่หลาย
“กล่อง” กับ “ลัง” ต่างกันอย่างไรในบริบทนี้?
ในภาษาไทยทั่วไป คำว่า “กล่อง” และ “ลัง” มักใช้แทนกันได้สำหรับภาชนะบรรจุของ แต่หากพิจารณาตามลักษณะการใช้งานที่กล่าวถึงในบทความต้นฉบับ อาจพอจำแนกความแตกต่างได้ดังนี้
- กล่อง (Box) : มักหมายถึงภาชนะบรรจุทั่วไป อาจทำจากกระดาษแข็ง (Paperboard) หรือกระดาษลูกฟูก ใช้ใส่สินค้าหลากหลาย มักมีรูปทรงสี่เหลี่ยม
- ลัง (Crate/Large Box) : มักใช้เรียกกล่องที่ทำจากกระดาษลูกฟูกที่มีขนาดใหญ่และ/หรือมีความแข็งแรงสูง (เช่น 5 ชั้น) เน้นใช้สำหรับการขนส่งสินค้าจำนวนมาก หรือสินค้าที่มีน้ำหนักมาก
อย่างไรก็ตาม การเรียกขึ้นอยู่กับความคุ้นเคยและบริบท ไม่ได้มีกฎเกณฑ์ตายตัวเสมอไป
คุณสมบัติและประโยชน์ของกระดาษลูกฟูก
กระดาษลูกฟูกได้รับความนิยมอย่างสูงในอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ ด้วยคุณสมบัติและประโยชน์ ดังนี้
คุณสมบัติ
- แข็งแรง รับน้ำหนักได้ดี : โครงสร้างลอนลูกฟูกช่วยกระจายแรง ทำให้ทนต่อแรงกดทับและการกระแทกได้ดี
- น้ำหนักเบา : เมื่อเทียบกับความแข็งแรง ถือว่ามีน้ำหนักเบา ช่วยลดต้นทุนการขนส่ง
- ป้องกันความเสียหาย : ช่วยรองรับและป้องกันสินค้าภายในจากการสั่นสะเทือนและแรงกระแทก
- ขึ้นรูปและออกแบบได้หลากหลาย : สามารถตัด พับ และพิมพ์ลวดลายหรือข้อมูลต่างๆ ได้ง่าย
- เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม : ส่วนใหญ่ทำจากวัสดุรีไซเคิล และสามารถนำกลับไปรีไซเคิลได้เกือบ 100% ทั้งยังย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ (หากไม่เคลือบสารกันน้ำมากเกินไป)
- ต้นทุนต่ำ : เป็นวัสดุบรรจุภัณฑ์ที่มีราคาไม่แพงนัก
ประโยชน์
- ปกป้องสินค้าระหว่างขนส่ง : เป็นหน้าที่หลักที่สำคัญที่สุด
- สะดวกในการจัดเก็บและขนย้าย : รูปทรงกล่องที่เป็นมาตรฐานช่วยให้วางซ้อนและจัดการได้ง่าย
- เป็นเครื่องมือทางการตลาด : สามารถพิมพ์โลโก้ แบรนด์ หรือข้อมูลส่งเสริมการขายลงบนกล่องได้
- ใช้งานได้หลากหลาย : นอกจากทำกล่องแล้ว ยังใช้ทำแผ่นรอง แผ่นกั้น ไส้ในกันกระแทก พาเลทกระดาษ หรือแม้แต่งานประดิษฐ์ได้
ประเภทของกระดาษลูกฟูก
กระดาษลูกฟูกแบ่งตามจำนวนชั้นและโครงสร้างได้หลักๆ ดังนี้

- กระดาษลูกฟูก 2 ชั้น (Single Face):
- โครงสร้าง : แผ่นเรียบ 1 แผ่น + ลอนลูกฟูก 1 แผ่น
- การใช้งาน : นิยมใช้เป็นวัสดุกันกระแทก ห่อหุ้มสินค้า หรือปะกบกับงานพิมพ์ออฟเซ็ตเพื่อทำกล่องให้สวยงาม
- กระดาษลูกฟูก 3 ชั้น (Single Wall):
- โครงสร้าง : แผ่นเรียบ 1 แผ่น + ลอนลูกฟูก 1 แผ่น + แผ่นเรียบ 1 แผ่น (ลอนอยู่ตรงกลาง)
- การใช้งาน : เป็นประเภทที่นิยมใช้ทำกล่องพัสดุและกล่องสินค้าทั่วไปมากที่สุด เหมาะกับสินค้าที่มีน้ำหนักปานกลาง
- กระดาษลูกฟูก 5 ชั้น (Double Wall):
- โครงสร้าง : แผ่นเรียบ 1 แผ่น + ลอนลูกฟูก 1 แผ่น + แผ่นเรียบ 1 แผ่น + ลอนลูกฟูก 1 แผ่น + แผ่นเรียบ 1 แผ่น (มีลอน 2 ชั้น สลับกับแผ่นเรียบ)
- การใช้งาน : แข็งแรงกว่า 3 ชั้นมาก เหมาะสำหรับทำกล่องใส่สินค้าที่มีน้ำหนักมาก สินค้าที่แตกหักง่าย ต้องการการป้องกันสูง หรือการขนส่งระยะไกลและส่งออก
- กระดาษลูกฟูก 7 ชั้น (Triple Wall):
- โครงสร้าง : มีลอนลูกฟูก 3 ชั้น สลับกับแผ่นเรียบ
- การใช้งาน : แข็งแรงสูงสุด เหมาะสำหรับสินค้าอุตสาหกรรมที่มีน้ำหนักมาก หรือใช้ทดแทนลังไม้
ชนิดของลอน (Flute) ขนาดของลอนลูกฟูก (เช่น ลอน A, B, C, E, F) มีผลต่อคุณสมบัติของกระดาษ ลอนใหญ่ (เช่น A, C) จะรับแรงกดทับและกันกระแทกได้ดีกว่า แต่ผิวไม่เรียบ ลอนเล็ก (เช่น B, E) จะมีผิวเรียบกว่า เหมาะกับงานพิมพ์ และทนแรงทิ่มทะลุได้ดีกว่า ในกล่อง 5 ชั้น มักใช้ลอนต่างขนาดผสมกัน (เช่น ลอน BC, BE) เพื่อให้ได้คุณสมบัติที่สมดุล
กระดาษลัง/กระดาษลูกฟูกกับการรีไซเคิล
จุดเด่นสำคัญของกระดาษลูกฟูก คือ ความสามารถในการรีไซเคิลสูง กระดาษลังหรือกล่องที่ใช้แล้วสามารถรวบรวมและนำกลับเข้าสู่โรงงานผลิตกระดาษ เพื่อแปรรูปเป็นเยื่อกระดาษรีไซเคิล และนำไปผลิตเป็นกระดาษลูกฟูกหรือผลิตภัณฑ์กระดาษอื่นๆ ได้ใหม่
เช่น ลังไข่ กล่องรองเท้า ถาดกระดาษ วัสดุกันกระแทก ซึ่งช่วยลดปริมาณขยะ ลดการตัดต้นไม้ และประหยัดพลังงานในการผลิต
คำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับกระดาษลัง หรือ กระดาษลูกฟูก
คำถามที่ 1 : “กระดาษลัง” กับ “กระดาษลูกฟูก” คืออย่างเดียวกันหรือไม่?
ตอบ : โดยทั่วไป “กระดาษลูกฟูก” (Corrugated Paperboard) หมายถึงตัววัสดุที่มีโครงสร้างเป็นแผ่นเรียบสลับลอน ส่วน “กระดาษลัง” มักเป็นคำทั่วไปที่คนใช้เรียกกล่องที่ทำจากกระดาษลูกฟูก แต่บางครั้งก็อาจหมายถึงแผ่นกระดาษลูกฟูกเองได้เช่นกัน
คำถามที่ 2 : กล่องกระดาษลูกฟูก 3 ชั้น กับ 5 ชั้น เลือกใช้อย่างไร?
ตอบ : เลือก 3 ชั้น (Single Wall) สำหรับสินค้าทั่วไป น้ำหนักไม่มาก (เช่น เสื้อผ้า, ของใช้ส่วนตัว, อาหารแห้ง) / เลือก 5 ชั้น (Double Wall) สำหรับสินค้ามีน้ำหนักมาก, แตกหักง่าย, ต้องการการปกป้องสูง, การขนส่งระยะไกล หรือการวางซ้อนกันหลายชั้น
คำถามที่ 3 : กระดาษลูกฟูกกันน้ำได้หรือไม่?
ตอบ : โดยธรรมชาติ กระดาษลูกฟูกไม่กันน้ำ แต่สามารถเพิ่มคุณสมบัติกันความชื้นหรือกันน้ำได้ในระดับหนึ่ง โดยการเลือกใช้กระดาษผิวกล่องชนิดพิเศษ หรือการเคลือบสารกันน้ำ แต่การเคลือบอาจส่งผลต่อความสามารถในการรีไซเคิล
คำถามที่ 4 : กล่องกระดาษลูกฟูกเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมจริงหรือ?
ตอบ : ใช่ ถือว่าเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่าพลาสติกหรือโฟม เพราะส่วนใหญ่ผลิตจากเยื่อรีไซเคิล สามารถนำไปรีไซเคิลได้ง่าย และย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ (หากไม่ปนเปื้อนหรือไม่เคลือบสารที่ย่อยสลายยาก)
คำถามที่ 5 : แผ่นกระดาษลัง (กระดาษลูกฟูก) นอกจากทำกล่องแล้ว เอาไปใช้ทำอะไรได้อีกบ้าง?
ตอบ : ใช้ทำแผ่นรองสินค้าบนพาเลท, แผ่นกั้นแบ่งช่องในกล่อง, ใช้รองพื้นกันรอยขีดข่วนในงานก่อสร้างหรืองานขนย้าย, ใช้เป็นวัสดุกันกระแทก, หรือนำไปประดิษฐ์เป็นเฟอร์นิเจอร์ ของเล่น หรือของใช้อื่นๆ ได้
สรุป
กระดาษลัง หรือ กระดาษลูกฟูก เป็นวัสดุบรรจุภัณฑ์ที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง ด้วยโครงสร้างอันเป็นเอกลักษณ์ที่ให้ทั้งความแข็งแรงและน้ำหนักเบา สามารถนำไปใช้งานได้อย่างหลากหลาย โดยเฉพาะการผลิตกล่องเพื่อการขนส่ง นอกจากนี้ ยังเป็นตัวเลือกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเนื่องจากสามารถรีไซเคิลได้เกือบทั้งหมด การทำความเข้าใจคุณสมบัติและประเภทต่างๆ ของกระดาษลูกฟูกจะช่วยให้สามารถเลือกใช้งานได้อย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพสูงสุด
บทความที่เกี่ยวข้อง