วิธีบริหารร้านกาแฟและเครื่องดื่มเพื่อเพิ่มยอดขาย

วิธีบริหารร้านกาแฟและเครื่องดื่มเพื่อเพิ่มยอดขาย

สำหรับผู้ประกอบการ SMEs และ Startup ที่กำลังทำธุรกิจร้านกาแฟ การเข้าใจ วิธีบริหารร้านกาแฟ ให้มีประสิทธิภาพคือหัวใจสำคัญของการสร้างกำไรและเติบโตอย่างยั่งยืน

ทีมงานหงส์ไทยเข้าใจดีว่านอกเหนือจากรสชาติที่ดีของกาแฟแล้ว ยังมีปัจจัยอีกหลายอย่างที่ช่วยผลักดันให้ร้านของคุณประสบความสำเร็จได้ ดังต่อไปนี้

หัวใจหลักของวิธีบริหารร้านกาแฟให้ประสบความสำเร็จ

ทีมงานหงส์ไทยเข้าใจดีว่านอกเหนือจากรสชาติที่ดีของกาแฟแล้ว ยังมีปัจจัยอีกหลายอย่างที่ช่วยผลักดันให้ร้านของคุณประสบความสำเร็จได้ ดังต่อไปนี้

การจัดการต้นทุนและกำหนดราคาที่เหมาะสม

การจัดการต้นทุนและกำหนดราคาที่เหมาะสม

การจัดการต้นทุน คือการบริหารค่าใช้จ่ายทั้งหมดของร้านอย่างมีระบบ เพื่อให้คุณรู้ว่า เงินทุกบาทที่จ่ายไปนั้นคุ้มค่าที่สุด ตั้งแต่ค่าวัตถุดิบไปจนถึงค่าจ้างพนักงาน

โดยมีเป้าหมายคือการควบคุมรายจ่ายให้อยู่ในจุดที่เหมาะสม เพื่อสร้างกำไรสูงสุดให้กับร้านของคุณค่ะ

ทีมงานหงส์ไทยแนะนำให้แยกต้นทุนออกเป็น 2 ส่วนหลักๆ คือ

1. ต้นทุนคงที่ (Fixed Cost)

คือ ต้นทุนที่ธุรกิจ ต้องจ่ายเป็นจำนวนเงินค่อนข้างคงที่ในแต่ละงวด (เช่น ต่อเดือน, ต่อปี) โดย ไม่ขึ้นอยู่กับว่า จะขายสินค้าหรือให้บริการได้มากน้อยแค่ไหน

พูดง่ายๆ คือ “ขายดีหรือไม่ดี ก็ต้องจ่ายเท่าเดิม” แม้กระทั่งวันที่คุณปิดร้านไม่ได้ขายเลยสักแก้ว คุณก็ยังต้องจ่ายต้นทุนส่วนนี้อยู่ดี

ตัวอย่าง Fixed Cost ในร้านกาแฟ

  • ค่าเช่าร้าน : เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุด ไม่ว่าคุณจะขายกาแฟได้ 10 แก้ว หรือ 1,000 แก้ว คุณก็ต้องจ่ายค่าเช่าเท่าเดิมทุกเดือน
  • เงินเดือนพนักงานประจำ : เช่น เงินเดือนผู้จัดการร้าน, บาริสต้าประจำ ที่จ่ายเป็นรายเดือนเต็มจำนวน
  • ค่าอินเทอร์เน็ต Wi-Fi : ส่วนใหญ่จ่ายเป็นแพ็คเกจรายเดือนราคาคงที่
  • ค่าประกันภัย : เช่น ประกันอัคคีภัยของร้าน ซึ่งจ่ายเป็นรายปี
  • ค่าเสื่อมราคาอุปกรณ์ : เช่น เครื่องชงกาแฟ, ตู้เย็น, เฟอร์นิเจอร์ 
  • ค่าธรรมเนียมใบอนุญาตต่างๆ : ที่ต้องจ่ายเป็นรายปี

2. ต้นทุนผันแปร (Variable Cost)

คือ ต้นทุนที่ จะเปลี่ยนแปลงไปตามปริมาณการผลิตหรือการขายโดยตรง พูดง่ายๆก็คือ “ยิ่งขายมาก ก็ยิ่งจ่ายมาก ยิ่งขายน้อย ก็ยิ่งจ่ายน้อย” ถ้าวันไหนไม่ได้ขายเลย ต้นทุนส่วนนี้ก็จะเป็นศูนย์

ตัวอย่าง Variable Cost ในร้านกาแฟ

  • เมล็ดกาแฟ : นี่คือต้นทุนผันแปรที่ชัดเจนที่สุด ขายกาแฟ 1 แก้ว ก็ใช้เมล็ดกาแฟ 1 ช็อต ขาย 100 แก้ว ก็ใช้ 100 ช็อต
  • นมสด, ไซรัป, ผงโกโก้, ชา : วัตถุดิบทั้งหมดที่ใช้ในการผสมเครื่องดื่ม
  • แก้ว, ฝา, หลอด, ปลอกสวมแก้ว : ต้นทุนบรรจุภัณฑ์เหล่านี้จะเพิ่มขึ้นตามจำนวนแก้วที่ขายได้
  • ค่าน้ำ-ค่าไฟ : ส่วนนี้มักจะผันแปรตามการใช้งาน ยิ่งเปิดแอร์นาน เปิดไฟเยอะ ชงกาแฟหลายแก้ว (ใช้เครื่องชง, เครื่องบด) ค่าไฟก็จะสูงขึ้นตาม
  • ค่าธรรมเนียม GP (Gross Profit) จากแอปเดลิเวอรี่ : เช่น LINE MAN, GrabFood ที่หักเป็นเปอร์เซ็นต์จากยอดขาย

ตารางสรุปเพื่อความชัดเจน

คุณลักษณะต้นทุนคงที่ (Fixed Cost)ต้นทุนผันแปร (Variable Cost)
ความสัมพันธ์กับยอดขายไม่เปลี่ยนแปลงตามยอดขายเปลี่ยนแปลงตามยอดขายโดยตรง
เมื่อยอดขายเป็นศูนย์ยังคงต้องจ่ายเป็นศูนย์
ตัวอย่างเด่นค่าเช่าร้าน, เงินเดือนประจำเมล็ดกาแฟ, นม, แก้ว

เมื่อทราบต้นทุนที่แท้จริงแล้ว การกำหนดราคาขายที่เหมาะสมจะช่วยให้ร้านของคุณมีกำไรที่ชัดเจน และสามารถแข่งขันในตลาดได้

รักษามาตรฐานรสชาติและคุณภาพให้คงที่

นอกจากในเรื่องของรสชาติที่ดีของตัวกาแฟแล้ว สิ่งที่ทำให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำ คือการสร้างมาตรฐานของรสชาติให้เหมือนกันทุกแก้ว ไม่ว่าใครจะเป็นคนชงก็ตาม

สิ่งที่จะช่วยให้ปัญหานี้หายไปคือการสร้าง “สูตรมาตรฐาน” (SOPs) ให้เป็นเหมือนสูตรอาหารประจำร้าน ที่พนักงานทุกคนต้องปฏิบัติตาม

รักษามาตรฐานรสชาติและคุณภาพให้คงที่

โดยระบุรายละเอียดที่ชัดเจนและวัดผลได้ เช่น

  • ปริมาณเมล็ดกาแฟที่ใช้ 
  • อุณหภูมิของน้ำและนมที่ใช้
  • ปริมาณไซรัปที่แน่นอน เป็นต้น

เมื่อมีสูตรในการชงกาแฟที่ลงตัวแล้ว จะทำให้กค้าก็จะได้รับเครื่องดื่มรสชาติเยี่ยมเหมือนเดิมในทุกครั้ง ช่วยสร้างความไว้วางใจ และเปลี่ยนลูกค้าขาจรให้กลายเป็นลูกค้าประจำได้

การตลาดและโปรโมชั่นดึงดูดลูกค้า

โปรโมชั่นเป็นเครื่องมือดึงดูดลูกค้าชั้นดีที่ผู้ประกอบการทุกร้านค้าต้องมี เพราะนอกจากจะช่วยเพิ่มยอดขายแล้ว ยังจะช่วยในการสร้างฐานลูกค้าใหม่ได้อีกด้วย

โดยอาจเริ่มจากการจัดกิจกรรมสะสมแต้ม เช่น ซื้อครบ 10 แก้ว แถมฟรี 1 แก้ว เพื่อกระตุ้นให้เกิดการซื้อซ้ำ และค่อยคิดโปรโมชั่นอื่นๆ ตามมาภายหลังได้

การตลาดและโปรโมชั่นดึงดูดลูกค้าของร้านกาแฟ

นอกจากนี้ การสร้างสรรค์เมนูพิเศษตามฤดูกาล หรือการใช้ช่องทางโซเชียลมีเดียถ่ายรูปเครื่องดื่มสวยๆ จัดโปรโมชั่นเช็คอิน ก็เป็นอีกวิธีที่ช่วยสร้างการรับรู้และดึงดูดลูกค้าใหม่ๆ ได้ครับ

เพิ่มเมนูเสริมและสร้างการขายพ่วง (Cross-selling)

เพิ่มเมนูเสริมและสร้างการขายพ่วง (Cross-selling) คือการเสนอสินค้าอื่นๆ ที่เข้ากันได้ดีกับสิ่งที่ลูกค้ากำลังจะซื้อ เพื่อทำให้ลูกค้ารู้สึกว่า “เออ จริงด้วย สั่งมากินคู่กันน่าจะดี”

กลยุทธ์ที่ขอแนะนำ เพื่อเสริมการขาย

เครื่องดื่ม และ เบเกอรี่ของว่าง
  • จับคู่เมนูทองคำ (The Golden Pairing) : เป็นศิลปะในการคัดเลือก “เครื่องดื่ม” และ “เบเกอรี่ของว่าง” ที่เมื่อทานคู่กันแล้ว จะช่วยส่งเสริมรสชาติของกันและกันให้โดดเด่นและอร่อยยิ่งขึ้น
  • สร้าง “เซ็ตสุดคุ้ม” (Create Value Sets) : คนส่วนใหญ่แพ้คำว่า “คุ้มกว่า” จัดเซ็ตจับคู่เครื่องดื่มกับเบเกอรี่ในราคาที่ถูกลงเล็กน้อย (เมื่อเทียบกับการซื้อแยก) จะช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจง่ายขึ้นมาก
    • ตัวอย่าง : “Set สุดคุ้ม: กาแฟ + ครัวซองต์ เพียง 129 บาท (จากปกติ 145 บาท)”
  • เสนอของว่างทานเล่น (Snack Attack) : เตรียมขนมชิ้นเล็กๆ ราคาไม่สูงไว้หน้าเคาน์เตอร์ เช่น คุกกี้, อัลมอนด์อบเกลือ, ขนมปังกรอบ เป็นตัวเลือกที่ลูกค้าง่ายที่จะ “หยิบเพิ่ม” โดยไม่คิดเยอะ
  • ไม่ใช่แค่ของกิน (Beyond Food) : ถ้าลูกค้าชอบกาแฟของคุณมาก ลองเสนอสิ่งที่ต่อยอดความชอบของเขาได้ ตัวอย่างเช่น
    • “กาแฟแก้วนี้ใช้เมล็ดจากเชียงรายนะคะ ที่ร้านมีเมล็ดคั่วใหม่ขายด้วย สนใจรับกลับไปชงที่บ้านไหมครับ?”
    • “เห็นชอบแก้วมัคของที่ร้าน เรามีขายเป็นของที่ระลึกด้วยนะคะ”

สร้างความประทับใจในบริการ คือเคล็ดลับมัดใจลูกค้า

สร้างความประทับใจในบริการ คือเคล็ดลับมัดใจลูกค้า

การบริการที่ดีเยี่ยมเป็นส่วนสำคัญของ วิธีบริหารร้านกาแฟ ที่จะสร้างความไว้วางใจ และเกิดเป็นความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างลูกค้ากับแบรนด์ของคุณได้

เคล็ดลับง่ายๆ คือการจดจำเมนูโปรดของลูกค้าประจำ ซึ่งจะทำให้ลูกค้ารู้สึกเป็นคนพิเศษ นอกจากนี้ การดูแลความสะอาดของร้านให้ดูน่านั่ง และการอบรมพนักงานให้มีใจบริการ (Service Mind) ก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้ลูกค้าประทับใจและอยากกลับมาอีกครั้งครับ

บรรจุภัณฑ์ที่ใช่ คือการตลาดที่ไม่ต้องพูด

สำหรับลูกค้าที่ซื้อกลับบ้านหรือสั่งผ่านเดลิเวอรี่ บรรจุภัณฑ์คือสิ่งแรกที่ลูกค้าจะได้สัมผัส การเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ที่มีคุณภาพและดีไซน์สวยงามจึงเป็นการสร้างความประทับใจด่านแรก

ทีมงานหงส์ไทยขอแนะนำให้เลือกใช้ แก้วกาแฟกระดาษแบบสองชั้น (Double wall cups) ที่ช่วยรักษาอุณหภูมิและแข็งแรงทนทาน การพิมพ์โลโก้ร้านบนแก้วยังเป็นการโฆษณาเคลื่อนที่ ที่ช่วยสร้างการจดจำแบรนด์ของคุณได้อย่างดีเยี่ยม

คำถามที่พบบ่อย (FAQ) สำหรับการบริหารร้านกาแฟ

คำถามที่พบบ่อย (FAQ) สำหรับการบริหารร้านกาแฟ
วิธีบริหารร้านกาแฟให้มีประสิทธิภาพ ควรเริ่มต้นจากอะไรเป็นอันดับแรก?

ควรเริ่มต้นจากการ “จัดการต้นทุน” ให้ชัดเจน โดยแยกต้นทุนคงที่ (Fixed Cost) และต้นทุนผันแปร (Variable Cost) ออกจากกัน เพื่อให้สามารถกำหนดราคาขายที่เหมาะสมและเห็นภาพกำไรที่แท้จริงของร้าน

ต้นทุนคงที่ (Fixed Cost) และต้นทุนผันแปร (Variable Cost) ในร้านกาแฟคืออะไร?

ต้นทุนคงที่ (Fixed Cost): คือค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายเท่าเดิมทุกเดือน ไม่ว่ายอดขายจะเป็นอย่างไร เช่น ค่าเช่าร้าน, เงินเดือนพนักงานประจำ, ค่าอินเทอร์เน็ต
ต้นทุนผันแปร (Variable Cost): คือค่าใช้จ่ายที่เปลี่ยนแปลงตามยอดขาย ยิ่งขายดีก็ยิ่งจ่ายเยอะ เช่น ค่าเมล็ดกาแฟ, นม, แก้ว, ฝา, หลอด และค่า GP จากแอปเดลิเวอรี่

ทำไมรสชาติกาแฟแต่ละแก้วไม่เหมือนกัน และจะรักษามาตรฐานให้คงที่ได้อย่างไร?

ปัญหานี้แก้ไขได้ด้วยการสร้าง “สูตรมาตรฐาน” (Standard Operating Procedures – SOPs) ซึ่งเป็นการกำหนดรายละเอียดการชงที่ชัดเจนและวัดผลได้ 

มีไอเดียโปรโมชั่นอะไรบ้างสำหรับดึงดูดลูกค้าและเพิ่มยอดขายร้านกาแฟ?

คุณสามารถเริ่มจากโปรโมชั่นง่ายๆ ที่ช่วยกระตุ้นการซื้อซ้ำ เช่น บัตรสะสมแต้ม (ซื้อครบ 10 ฟรี 1), การสร้างสรรค์ เมนูพิเศษตามฤดูกาล เพื่อสร้างความตื่นเต้นเป็นต้น

Cross-selling หรือการขายพ่วงในร้านกาแฟคืออะไร และทำได้อย่างไรบ้าง?

Cross-selling คือการเสนอขายสินค้าอื่นที่ทานคู่กันเพื่อเพิ่มยอดขายต่อบิล กลยุทธ์ที่ทำได้ง่ายคือ การจับคู่เมนูเครื่องดื่มกับเบเกอรี่ การจัดเซ็ตสุดคุ้มในราคาพิเศษ หรือการเสนอขายสินค้าอื่นๆ

บรรจุภัณฑ์ เช่น แก้วกาแฟ มีความสำคัญต่อการสร้างแบรนด์อย่างไร?

การเลือกใช้แก้วกาแฟที่มีคุณภาพและดีไซน์สวยงาม เช่น แก้วกระดาษสองชั้น พร้อมพิมพ์โลโก้ร้าน จะทำหน้าที่เหมือนป้ายโฆษณาเคลื่อนที่ ช่วยสร้างการจดจำแบรนด์ของคุณได้อย่างดีเยี่ยม

แนะนำสินค้าจากโรงงาน

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า | แจ้งยกเลิกการประมวลผลข้อมูล

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์และโฆษณา

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลวส่วนบบุคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ Cookies ที่เราใช้งานได้แก่ Google Analytics และ Facebook Pixel

บันทึกการตั้งค่า