มาตรฐานการพิมพ์ G7 มาทำความรู้จักกันว่าคืออะไร

มาตรฐานการพิมพ์ G7 ซึ่งหลายท่านอาจจะเกิดความสงสัยกับคำว่า G7 เกี่ยวข้องกับรูปแบบการพิมพ์อย่างไร และเพราะเหตุใดแบรนด์ดังๆต้องเลือกโรงพิมพ์ที่ได้มาตรฐานมีใบรับรอง G7 Master Certification เบื้องต้นก็เพราะว่า มีการคุมโทนสีที่เท่ากัน สามารถส่งไฟล์ได้หลากหลายระบบการพิมพ์ มีการพิมพ์สร้างค่าสีที่มีความสมดุล เป็นต้น นี่คือเหตุผลบางส่วนว่าทำไมจึงควรเลือกโรงพิมพ์ที่ได้มาตรฐาน G7 แต่รายละเอียดเพิ่มเติมจะมีอย่างไรบ้างเรามาทำความรู้จักกันให้มากขึ้นกันเถอะ

มาตรฐานการพิมพ์ G7 คือ

คำว่า G7 นั้นเป็นอักษรย่อ มาจากคำว่า Grey ตัวย่อ G และ 7 หรือ Seven คือ CMYK+RGB โดยคำว่า G7นั้น เป็นมาตรฐานของการพิมพ์ที่มีวิธีสีที่ระบุไว้ใน ISO การรับรอง G7 มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้คำแนะนำแก่ โรงงานฯ โรงพิมพ์ หรือ บริษัท ในการกำหนดและปรับเทียบสีเทาในการพิมพ์เพื่อให้สามารถใช้มาตรฐานการพิมพ์ ISO 12647 ได้ดียิ่งขึ้น

ซึ่ง G7 คือ วิธีการ (Method) เทียบมาตรฐาน (Calibration) เป็นสเปค (Specification) แต่ไม่ใช่มาตรฐาน (Standard) ไม่ใช่การจัดการสี CMS (Color Management System) G7 ใช้กับเครื่องพิมพ์ทุกระบบ ตั้งแต่งานขาวดำ Black จนถึงงาน 4 สี CMYK สามารถแลกค่าสีข้ามระบบการพิมพ์ วัสดุพิมพ์ และหมึกที่ต่างกันได้ เช่น พิมพ์ถุงพลาสติกกับพิมพ์กล่องบรรจุภัณฑ์ G7 เป็น Gray Management สร้างค่าสีสมดุลเทา (Gray Balance) และโทนเทา (Tonality) ให้สัมพันธ์กับความขาวของวัสดุพิมพ์ (Substrate Relative) G7 จะปรับค่าสี L*a*b* และเปอร์เซ็นต์สกรีน CMY ให้เห็นเป็นเทากลาง (Neutral Appearance) ไม่ว่ากระดาษนั้นจะเฉดใดก็ตาม

มาตรฐานการพิมพ์รูปแบบนี้เกิกขึ้นมาจาก องค์กร IDELliance (International Digital Enterprise Alliance) คิดวิธี G7 ขึ้นมาใช้กับมาตรฐานการพิมพ์ป้อนม้วน SWOP (Specification Web Offset Printing) และมาตรฐานการพิมพ์ป้อนแผ่น GRACoL (General Requirements for Applications in Commercial Offset Lithography) ปัจจุบันทั้งสองสเปครวมอยู่ใน ISO 15339 (Printing from digital data across multiple technology) ฉบับ 2 (Characterized reference printing condition CRPC1 – CRPC7)

ระดับมาตรฐานรวมไปถึงวิธีการตรวจพิมพ์รูปแบบ G7 ที่มีความสอดคล้องกันนั้นถือว่าเป็นจุดที่น่าสนใจสำหรับองค์กรที่ทำการวิจัยและผลิตสื่อสิ่งพิมพ์หลายแห่ง ในแง่นี้มาตรฐานของการพิมพ์รูปแบบป้อนเป็นแผ่น GRACoL ในต่างประเทศอย่างสหรัฐอเมริกาได้มีความพยายามที่ใช้การพิมพ์รูปแบบนี้ให้เกิดเป็นประโยชน์และบรรลุเป้าหมายของการพิมพ์ที่ทันสมัยทำให้ผลงานที่พิมพ์ออกมาดี

GRACoL (การประยุกต์ใช้ในการพิมพ์แบบ Offset) นั้นเป็นองค์กรส่งเสริมการพิมพ์ ที่ใช้เทคโนโลยีการพิมพ์รูปแบบ Offset ในประเทศสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ Digital Enterprise Alliance (IDE International Alliance) GRACoL ได้พัฒนาชุดของการทดสอบมาตรฐานและวิธีการใช้งานสำหรับการพิมพ์ข้อมูลการผลิตตามมาตรฐานการพิมพ์ Offset ได้มาตรฐานรับรองด้วยใบCer อย่าง ISO 12647-2 ในเดือนมิถุนายน ปี พ.ศ.2549 โดยได้มี พิธีการใหญ่อย่าง Grand Opening เป็นการเปิดตัวเวอร์ชันใหม่ที่เป็นนวัตกรรมล่าสุดของการติดตั้งระบบการพิมพ์แบบ GRACoL7 ได้มีการนำไปใช้และเนื่องจากการทดสอบที่ขยายเป็นวงกว้าง GRACoL7 ได้รวบรวมวิธีการที่ใช้สำหรับตรวจสอบระบบการพิมพ์ใหม่ ๆ และรวบรวมสถิติของการพิมพ์ที่เกี่ยวข้อง หลังจากการวัดและคำนวณสถิติเหล่านี้ ทำให้ได้ข้อมูลในหลากหลายข้อมูลที่จะส่งผลดีที่สุดในการเลือกระบบที่จะใช้ในการพิมพ์ แต่ก็ขึ้นอยู่กับผลลัพธ์เหล่านี้จะปรับเส้นโค้งการปรับเทียบผลลัพธ์ของ RIP ของเครื่องฉายภาพหรือ CTP การพิมพ์ของ Dongfeng Printing ช่วยปรับปรุงคุณภาพงานพิมพ์และการทำสีตามงานที่ทำซ้ำได้ของระบบหรือไม่ด้วย

ระบบการพิมพ์ตามที่กำหนดโดย GRACoL7 กลไกหลักของวิธีนี้คือการปรับเส้นโค้งในการปรับเทียบผลลัพธ์ของ CTP หรือ CTF เพื่อปรับปรุงคุณภาพของงานพิมพ์ขั้นสุดท้าย การทดสอบและกระบวนการที่ได้มีการนำมาเปรียบเทียบกันอันนี้มีอยู่ 2 แบบ โรงงานที่มีมาตรฐานการพิมพ์แบบ G7 จึงเป็นโรงงานที่ไม่ควรไม่ละเลยที่จะรักษาคุณภาพของการพิมพ์และในอีกหลายๆด้าน ก่อนอื่นอุปกรณ์เทคโนโลยีที่จะใช้ในการพิมพ์ที่ส่งออกผลิตภัณฑ์ที่ถูกพิมพ์ไปทั้งหมดจะต้องมีความเสถียรและสามารถทำการผลิตซ้ำได้ระหว่างการทำแผ่นและกระบวนการพิมพ์ทั้งหมด มิฉะนั้นแล้วการรวบรวมสถิติของสิ่งพิมพ์ที่ได้จะไม่มีความหมายใดเลยสำหรับการผลิตจริง ประการที่สองวัสดุที่ใช้ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน ISO ที่มีการกำกับดูแลอย่างดี บริษัทหรือโรงพิมพ์ ต้องคำนึงถึงหลายปัจจัยและทำการทดสอบรูปแบบการพิมพ์เพื่อทำการเก็บรวบรวมข้อมูลทุกครั้งเพื่อให้สิ่งพิมพ์ของเรายังคงรักษาคุณภาพและไม่เกิดข้อผิดพลาดครับ ถือเป็นการรักษามาตรฐานเบื้องต้นของโรงงานที่มีการพิมพ์รูปแบบ G7

มาทราบถึงความแตกต่างระหว่าง มาตรฐานการพิมพ์แบบ ISO 12647-2 และ การพิมพ์แบบ G7 ได้ว่าISO 12647-2 : 2007 2013 มาตรฐานงานพิมพ์ออฟเซตที่นิยมในไทย ใช้หลักการวัด Density, Dot Area ชดเชยเม็ดสกรีนบวม Dot Gain Compensation หรือ Tone Value Increase กับ CMYK และกับ Gray เช่นกันแต่ Gray ไม่เป็นเป้าหมายสำคัญการพิมพ์ จึงนำไปไว้ในภาคผนวกท้ายเล่ม ส่วนในระบบการพิมพ์มาตรฐาน G7 นั้น ใช้วิธีการเทียบมาตรฐาน Gray ของ ISO 10128 Methods of adjustment of the color reproduction of a printing system to match a set of characterization สร้าง Gray Balance, Tonality วัดด้วย Delta Ch, Delta L

นอกจากจะเป็นที่นิยมใช้ระบบการพิมพ์รูปแบบ G7 ในประเทศของเราแล้ว ทางต้านต่างประเทศอย่างแบรนด์ที่ดังระดับโลกเมื่อส่งงานให้โรงพิมพ์ที่เป็น Supply Chain ในประเทศจีน ไต้หวัน เกาหลี อินเดีย ปากีสถาน เวียดนาม สหรัฐอเมริกา ต้องมีการเลือกโรงพิมพ์ที่ได้รับ G7 Master Certification ในปัจจุบันดังนี้ (ไม่รวมอยู่ในโครงการตรวจสอบของร้านค้าปลีกรายเดียวเช่น WARMART, DISNEY, TARGET, COSTCO ฯลฯ โดยในหมวดคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ที่ระบุในใบรังรองการพิมพ์สีเขียวของทางประเทศจีน หรือ ใบรับรองการพิมพ์สีเขียว China Green Printing Certificate มีรายละเอียด ดังนี้ 

• การรับรอง FSC โดยทั่วไปจะแบ่งออกเป็นการรับรองจาก FM และ COC
• FM สามารถใช้งานได้กับ “หน่วยการจัดการป่าไม้” โดยสถาบันรับรองมาตรฐานของบุคคลที่สามเพื่อประเมินประสิทธิภาพการจัดการป่าไม้ของหน่วยปฏิบัติการเพื่อพิสูจน์ความต้องการในการดำเนินงานอย่างยั่งยืน
• ค้าไม้และแปรรูปไม้ตั้งแต่การจัดหาวัตถุดิบการเก็บรักษาการผลิตจนถึงการไหลเวียนและการขายของทั้งห่วงโซ่ เพื่อให้แน่ใจว่าผลิตภัณฑ์ขั้นสุดท้ายมาจากป่าที่ได้รับการรับรอง
• กระบวนการทั้งหมดของไม้จากป่าสู่ผู้บริโภคสามารถตรวจสอบได้

การพิมพ์แบบ G7 แบ่งออกได้กี่ระดับ

ระบบการพิมพ์แบบ G7 สำหรับโรงพิมพ์สามารถแบ่งออกได้ 3 ระดับ ดังนี้

1. G7 Grayscale Compliance จับเฉพาะ Gray Balance, Tonality , Shared Neutral Appearance
2. G7 Targeted Compliance ต้องผ่านระดับ Grayscale แล้ว เพิ่มเรื่อง Solid CMYK + RGB Overprint
3. G7 Colorspace Compliance ผ่านสองระดับข้างต้นแล้ว จบที่ CMS, CRPC1-7

G7 คือวิธีการ(Method) เทียบมาตรฐาน (Calibration) ให้เครื่องมือ (Device) โดยมีข้อกำหนด (Specification) ของสีเทา (Gray ) เป็นหลักสำคัญ G7 ไม่ใช่การจัดการสี CMS ,G7 ไม่ใช่ ICC Profile โดยข้อมูลนี้จะอธิบายวิธี Calibration ของ G7 ที่แบ่งออกได้เพิ่มเติม ดังนี้ 

G7 กำหนดสีเทา CMY และเทา K ไว้ 3 โทนคือ

• HC = Highlight Contrast
• HR = Highlight Range
• SC = Shadow Contrast

โรงพิมพ์ทีมาตรฐานการพิมพ์แบบ G7 มีการควบคุมค่าเทาของ HC,HR ,SC 

แบ่งออกได้ 2 ระดับ ดังนี้ 

• Tonality โดยวัดค่า Density ของเทา CMY และเทา K เรียกว่าNeutral Print Density(NPD) ให้ได้ตามมาตรฐานเช่น กระดาษอาร์ตที่เป็นกระดาษแบบมีความมัน มีค่าควบคุมความเทาในระดับ Tonality ดังนี้
  HC CMY = 0.25 K = 0.22
  HR CMY = 0.54 K = 0.49
  SC CMY = 0.91 K = 0.89
• Gray balance โดยวัดค่า a* b* CIELAB ของค่าสีเทา CMY เท่านั้น (ไม่วัดเทา K ) ให้ได้มาตรฐานเช่น กระดาษอาร์ตมันเป็นกระดาษที่มีลักษณ์มีความมันเลื่อม มีค่าการควบคุมค่าเทา ดังนี้
  ค่า L* = 95 a* = 1.0 b* = -4.0
  HC ต้องได้ค่า a* = 0.7 b* = -3.0
  HR ต้องได้ค่า a* = 0.5 b* = -2.0
  SC ต้องได้ค่า a* = 0.2 b* = -1.0

การแบ่งระดับของโรงพิมพ์ที่มีมาตรฐานนี้ได้มีการทำการวิจัย การทำการตรวจชี้วัดคุณภาพมาอย่างดีอย่าง โรงพิมพ์ระดับสูงหรือ G7 Master จะต้องมี G7 Expert เป็นไกด์ในการพิมพ์ตัวอย่างเพื่อส่งไปให้มหาวิทยาลัย RIT (Rochester Institute of Technology) ที่เป็น 3rd Party ให้ทำการประเมินคุณภาพให้ IDEALliance เพื่อรับรองมาตรฐานและการันตีคุณศักยภาพที่ปลอดภัยทันสมัยและมีคุณภาพของโรงพิมพ์ 

ขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก สมาคมการพิมพ์ไทย

โรงพิมพ์ที่ได้ มาตรฐานการพิมพ์ G7 ที่ผู้ประกอบเลือกใช้กับบรรจุภัณฑ์

โรงพิมพ์ที่ได้มาตรฐาน G7 สามารถรองรับระบบการพิมพ์ได้หลากหลายระบบและรูปแบบ ซึ่งจะกล่าวได้ว่าอุตสาหกรรมการพิมพ์บรรจุภัณฑ์นั้นในปัจจุบันนี้มีระบบการพิมพ์ที่มีความทันสมัย รูปแบบการพิมพ์ต่างๆจะมีด้วยกันอยู่หลากหลายประเภทแต่ที่เหมาะกับใช้กับบรรจุภัณฑ์จะมีหลักๆ 4 แบบ ซึ่งทั้ง 4แบบจะมีข้อดีและมีความแตกต่างกันอยู่บ้าง ที่ต้องได้มาตรฐาน ปลอดภัยจากสารเคมี อีกทั้งการพิมพ์ลวดลาย พิมพ์โลโก้หรืออักษรลงบนบรรจุภัณฑ์ถือว่าเป็นการเพิ่มมิติ และ อัตลักษณ์ที่สวยงามให้กับบรรจุภัณฑ์ด้วย ดังนั้นรูปแบบการพิมพ์ที่เป็นเทคโนโลยีการพิมพ์ที่ทันสมัยมีความเหมาะสมกับบรรจุภัณฑ์ที่นิยมทั้ง 4 แบบ ดังนี้ครับ

1. พิมพ์ระบบ DIGITAL CORRUGATED การพิมพ์และขึ้นรูปด้วยระบบ DIGITAL เทคโนโลยีจากประเทศญี่ปุ่น เป็นรูปแบบการพิมพ์ที่มีตุดเด่น ดังนี้
   • เป็นรูปแบบการพิมพ์ที่มีข้อดี ด้วยการพิมพ์ที่มีความรวดเร็ว ทั้งแบบบนแผ่นกระดาษและแบบม้วน
   • การพิมพ์ระบบนี้จะทำให้วัสดุที่พิมพ์มีคุณภาพสูง
   • มีความรวดเร็วในการพิมพ์ ถือว่าเป็นอีกการพิมพ์ที่เหมาะสมกับการใช้ระยะเวลาอันรวดเร็ว

    

2. พิมพ์ระบบ FLEXO เป็นระบบการพิมพ์บรรจุภัณฑ์ที่ใช้แม่พิมพ์พื้นนูนทำจากการฉายแสงบนวัสดุประเภทยางโพลิเมอร์ (Photo Photopolymer) การผลิตและพิมพ์ลงบนผิวกระดาษคราฟท์จากม้วนสู่ม้วน (Roll-to-Roll Printing) ที่ยังไม่ขึ้นรูปเป็นกระดาษลูกฟูกโดยใช้หมึกที่มีน้ำเป็นตัวทำละลาย (Water-based ink) ซึ่งแห้งตัวเร็วและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยข้อดีของการพิมพ์ระบบนี้จะมีจุดเด่นในเรื่อง
   • มีระบบพิมพ์ที่ใช้รูปแบบการทำงานแบบลูกกลิ้ง
   • มีการใช้แม่พิมพ์มารับสีและกลิ้งไปบนวัสดุที่เราจะพิมพ์
   • การพิมพ์ลักษณะนี้ทำให้การปรับหรือตั้งค่าสีแม่สีในเครื่องทำให้เกิดความแม่นยำในการพิมพ์ที่สูง
   • สีมีความสวยและสดใหม่
   • สีประเภทนี้มีคุณสมบัติกันน้ำ
   • แห้งเร็วและยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
3. พิมพ์ระบบ DIGITAL OFFSET  มีระบบการพิมพ์แบบ Offset หมึกสีที่ใช้ในกระบวนการผลิต ไม่มีส่วนผสมของโลหะหนัก และสารก่อมะเร็ง MOSH/MOAH โดยทาง หงส์ไทยฯ ใช้หมึกที่เป็น NON MINERAIL OIL ซึ่งเป็นข้อกำหนดของทางกลุ่มประเทศยุโรปที่จะมีผลบังคับใช้ในปี 2025 จุดเด่นของระบบการพิมพ์รูปแบบนี้มีรายละเอียด ดังนี้
   • เป็นการพิมพ์ที่มีความสะดวกและรวดเร็ว สามารถดำเนินการพิมพ์ได้ด้วยขั้นตอนที่ไม่ยุ่งยาก
   • สามารถแก้ไขตัว Art work ในการพิมพ์ได้ทันทีเพียงแค่เพิ่มไฟล์ใหม่ในการพิมพ์เข้าไป
   • เป็นการพิมพ์ที่ช่วยประหยัดเวลามาก เหมาะกับงานที่มีปริมาณไม่เยอะ
4. พิมพ์ระบบOFFSET เป็นการพิมพ์ระบบ OFFSET 6 สี พร้อมหน่วยเคลือบ ด้วยเทคโนโลยีจากประเทศเยอรมัน  ระบบการพิมพ์แบบ Offset ที่ได้รับความนิยมนี้นั้นมีจุดเด่นอยู่หลายประการอาทิเช่น
   • เป็นการพิมพ์ที่สามารถผลิตผลงานที่มีคุณภาพสูงได้เป็นอย่างดี
   • การพิมพ์แบบนี้ สามารถใช้กับวัสดุได้หลากหลาย อาทิเช่น พิมพ์ลงบนไม้ พิมพ์ลงบนโลหะ หนังสัตว์ หรือกระดาษที่หยาบได้ เป็นต้น
   • การพิมพ์แบบนี้ หมึกสีที่ใช้ในกระบวนการผลิต ไม่มีส่วนผสมของโลหะหนัก และ สารก่อมะเร็ง MOSH/MOAH

   งานพิมพ์ทั้ง 4 รูปแบบมีข้อดีที่แตกต่างกันในบางข้อ แต่โดยภาพรวมแล้วถือว่าเทคนิคการพิมพ์ทั้ง 4แบบนั้นถือว่าเป็นการพิมพ์ที่มีความทันสมัยปลอดภัย เหมาะกับบรรจุภัณฑ์กระดาษสำหรับงานสั่งผลิตทั้ง 4แบบ ซึ่งนอกจากสินค้าที่มีคุณภาพ การบริการที่ได้มาตรฐาน รวมไปถึงราคาที่สมเหตุสมผลแล้ว การค้าขายประกอบธุรกิจสร้างแบรนด์ต่างๆ นอกจากเรื่องที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว การเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ที่มีคุณภาพและมีความสวยงามก็จะช่วยเสริมให้แบรนด์เป็นที่น่าจดจำได้ และด้วยระบบการพิมพ์ที่ทันสมัย รวดเร็ว ความแม่นยำในการพิมพ์ และที่สำคัญช่วยให้บรรจุภัณฑ์มีความปลอดภัย

   สั่งผลิตพิมพ์ลายพิมพ์โลโก้ จากทางโรงงานฯ ช่วยสร้างอัตลักษณ์ส่งเสริมการตลาดด้วยดีไซน์แพคเกจจิ้งที่มีความแตกต่างจากคู่แข่ง กล่องหรือแพคเกจจิ้งจะเป็นสิ่งแรกที่ลูกค้า หรือผู้ที่สนใจมองเห็นเป็นอันดับแรก มีส่วนอย่างมากต่อการตัดสินใจในการเลือกผลิตภัณฑ์นั้นๆ หากมีรูปลักษณ์ที่มีความโดดเด่นสะดุดตาด้วยแล้วก็เป็นส่วนช่วยกระตุ้นให้ลูกค้าเลือกผลิตภัณฑ์ของเราได้จากดีไซน์กล่องที่มีความแปลกใหม่ นอกจากลวดลายสวยงามทันสมัยแล้วการสั่งผลิตยังสามารถระบุตำแหน่งรูปภาพแบรนด์ โลโก้ รายละเอียดสินค้า ชื่อแบรนด์ในการจัดวางได้ตามความเหมาะสมด้วย ผ่านการออกแบบเองหรือทำการปรึกษาทีมงานที่มีความชำนาญการคอยให้คำปรึกษาอย่างเหมาะสมและใส่ใจ พร้อมด้วยระบบการพิมพ์ที่ทันสมัยได้มาตรฐาน อย่างเช่นระบบการพิมพ์รูปแบบต่างๆที่ปลอดภัยใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม ดังนี้ 

   • มีการพิมพ์ระบบ OFFSET 6 สี พร้อมหน่วยเคลือบ ด้วยเทคโนโลยีจากประเทศเยอรมัน หมึกสีที่ใช้ในกระบวนการผลิต ไม่มีส่วนผสมของโลหะหนัก และ สารก่อมะเร็ง MOSH/MOAH โดยทาง หงส์ไทยฯ ใช้หมึกที่เป็น NON MINERAIL OIL ซึ่งเป็นข้อกำหนดของทางกลุ่มประเทศยุโรปที่จะมีผลบังคับใช้ในปี 2025
   • ทางโรงงานมีใบ certification รับรองมาตรฐาน ISO 9001:2015 FSSC 22000 GMP HACCP และ FSC:COC ซึ่งทำให้บรรจุภัณฑ์ที่ออกมาจากโรงงานฯมีคุณภาพและได้มาตรฐาน
   • ระบบการพิมพ์บรรจุภัณฑ์กระดาษกล่องลูกฟูกโดยใช้ หมึกถั่วเหลือง (SOY INK) หมึกพิมพ์มีระดับการโยกย้ายต่ำและไม่ซึมผ่านอาหารหรือเครื่องดื่ม ปลอดภัยต่อผู้บริโภคปราศจากสารเคมีตกค้างที่อาจจะซึมผ่านแพคเกจจิ้งไปสู่อาหารได้อย่างปลอดภัย 
   • โรงงานได้รับมอบใบรับรอง Material Safety Data Sheet (MSDS) ซึ่ง หมายถึงเอกสารข้อมูลความปลอดภัยสารเคมี ซึ่งเป็นเอกสารที่แสดงข้อมูลของสารเคมีหรือเคมีภัณฑ์เกี่ยวกับลักษณะความเป็นอันตราย พิษ วิธีใช้ การเก็บรักษา การขนส่ง การกำจัดและการจัดการอื่นๆ เพื่อให้การดำเนินการเกี่ยวกับสารเคมีนั้นเป็นไปอย่างถูกต้องและปลอดภัย
   • บรรจุภัณฑ์ของโรงงานฯ ปราศจากสารระเหย ไม่มีกลิ่น ปลอดภัยต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม (VOC Free) ซึ่งการที่มีปริมาณสารระเหยต่ำหรือ น้อยมาก ตามผลตรวจแล็บอาจแสดงว่า Low VOCs คือ 0.xx หมายความว่า ตัวผลิตภัณฑ์มีสารระเหยไม่ถึง 1% จึงมีความปลอดภัย
   • ต้องมีการส่งบรรจุภัณฑ์ไปตรวจสอบเชื้อจุลินทรีย์ในห้องแล็บของ สถาบัน ALS (Analytical Laboratory Service) เพื่อความปลอดภัยปราศจากเชื้อจุลินทรีย์ก่อนทำการส่งถึงผู้บริโภค
   • มีการฆ่าเชื้อบรรจุภัณฑ์กระดาษด้วยแสงอินฟราเรด Infrared Heating
   • มีการตรวจสอบย้อนกลับ (Traceability) คือความสามารถในการติดตามสินค้าตั้งแต่การผลิตไปจนถึงการจัดจำหน่าย ซึ่งช่วยให้ผู้ผลิตติดตามแต่ละส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์ได้

   โรงพิมพ์ที่ได้มาตรฐาน G7 ที่รองรับระบบการพิมพ์ที่หลากหลาย

โรงงานกลุ่มหงส์ไทย เป็นโรงงานโรงงานใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีทันสมัยในการผลิต ทำให้สามารถผลิตกล่องได้จำนวนมาก การันตีได้มาตรฐานในการผลิตสินค้ากระดาษที่ใช้เป็น กระดาษปราศจากสารระเหย ไม่มีกลิ่น ปลอดภัยต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม (VOC Free) อีกทั้งยังมีระบบการพิมพ์โดยระบบ การพิมพ์ Offset หมึกสีที่ใช้ในการผลิต ไม่มีส่วนผสมของโลหะหนัก และสารก่อมะเร็ง MOSH/MOAH และ Flexo ใช้สีฐานน้ำ มีกระบวนการผลิตเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมไปถึงหมึกถั่วเหลือง SOY INK ที่เป็นหมึกที่มาจากธรรมชาติ จึงทำให้โรงงานได้รับการ รับรองโรงพิมพ์แบบ G7 ที่สามารถรองรับการพิมพ์ได้หลากหลายระบบ จึงทำให้มั่นใจได้ถึงมาตรฐานในการพิมพ์ที่ปลอดภัย อีกทั้งยังสามารถใช้ในการออกแบบบรรจุภัณฑ์ได้อย่างแม่นยำและครอบคลุมด้วยครับ

อ่านรายละเอียดเกี่ยวกับงานสั่งผลิต :พิมพ์ลาย/พิมพ์โลโก้ จากกลุ่มโรงงานฯเพิ่มเติม