เมื่อพูดถึงการเลือกกล่องกระดาษลูกฟูกสำหรับบรรจุสินค้าหรือจัดส่งพัสดุ คำถามที่พบบ่อยคือควรจะเลือกระหว่างกล่อง 3 ชั้น กับ 5 ชั้น ดีกันแน่
เพราะหลายคนอาจเคยได้ยินว่า “กล่อง 3 ชั้นบางครั้งก็แข็งแรงกว่า 5 ชั้น” ซึ่งอาจสร้างความสับสน บทความนี้จะพาไปไขข้อสงสัย พร้อมแนะนำวิธีดูความแข็งแรงของกล่องให้ถูกต้อง


หัวข้อย่อยมีอะไรบ้าง ?
โครงสร้างกระดาษลูกฟูก 3 ชั้น vs 5 ชั้น
ความแตกต่างโครงสร้างพื้นฐานที่สุดระหว่างกระดาษลูกฟูกสองประเภทนี้คือจำนวนชั้นของกระดาษ ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อความสามารถในการรับน้ำหนักและการป้องกันสินค้าจะมีดังนี้
- กระดาษลูกฟูก 3 ชั้น (Single Wall) : ประกอบด้วยกระดาษแผ่นเรียบด้านนอก 2 แผ่น และมีลอนลูกฟูกอยู่ตรงกลาง 1 ชั้น (เรียบ-ลอน-เรียบ) เหมาะสำหรับสินค้าที่มีน้ำหนักเบาถึงปานกลาง การขนส่งในประเทศ หรือสินค้าที่ไม่ต้องการการป้องกันแรงกระแทกสูงมากนัก

- กระดาษลูกฟูก 5 ชั้น (Double Wall) : มีโครงสร้างที่ซับซ้อนและแข็งแรงกว่า ประกอบด้วยกระดาษแผ่นเรียบ 3 แผ่น สลับกับลอนลูกฟูก 2 ชั้น (เรียบ-ลอน-เรียบ-ลอน-เรียบ) ด้วยโครงสร้างที่หนาแน่นกว่า จึงเหมาะสำหรับสินค้าที่มีน้ำหนักมาก สินค้าที่ต้องการการป้องกันสูง หรือกล่องที่ต้องวางซ้อนกันหลายชั้น และนิยมใช้เป็นกล่องมาตรฐานสำหรับการส่งออก (Export Boxes)

แล้วทำไม “กล่อง 3 ชั้น” อาจแข็งแรงกว่า “กล่อง 5 ชั้น”?
คำกล่าวนี้ “เป็นไปได้” แต่ไม่ใช่ในทุกกรณี ความแข็งแรงของกล่องกระดาษไม่ได้ขึ้นอยู่กับจำนวนชั้นเพียงอย่างเดียว แต่ขึ้นอยู่กับคุณภาพของวัสดุที่ใช้เป็นหลัก

ทำให้กล่อง 3 ชั้นที่ผลิตจากวัสดุเกรดพรีเมียมอาจมีความแข็งแรงทนทานกว่ากล่อง 5 ชั้นที่ใช้กระดาษเกรดต่ำได้
หลักสำคัญในการดูความแข็งแรง

หากต้องการเปรียบเทียบความแข็งแรงของกล่อง ควรพิจารณาปัจจัยเหล่านี้ร่วมด้วยเสมอ
- เกรดกระดาษ (Paper Grade) : คุณภาพของเนื้อกระดาษที่ใช้ทำแผ่นเรียบ คือหัวใจสำคัญ โดยทั่วไปจะมีการแบ่งเกรดกระดาษคราฟท์ ซึ่งแต่ละเกรดมีความแข็งแรงและคุณสมบัติต่างกัน เช่น
- KA: กระดาษคราฟท์สีน้ำตาลทอง ทำจากเยื่อกระดาษคุณภาพสูง แข็งแรงทนทานที่สุด เหมาะกับการส่งออกหรือรับน้ำหนักมาก
- KI: กระดาษคราฟท์สีครีม มีความแข็งแรงรองลงมา เหมาะกับสินค้าทั่วไป
- KT: กระดาษคราฟท์สีน้ำตาลธรรมชาติ มีส่วนผสมของเยื่อรีไซเคิลสูง แข็งแรงน้อยที่สุด เหมาะกับกล่องพัสดุทั่วไปที่ไม่ได้รับน้ำหนักมาก
ดังนั้น กล่อง 3 ชั้นที่ใช้กระดาษ KA ทั้งหมด อาจแข็งแรงกว่ากล่อง 5 ชั้นที่ใช้กระดาษ KT ก็เป็นได้
- แกรมของกระดาษ (Grammage) : คือน้ำหนักของกระดาษต่อหน่วยพื้นที่ (กรัมต่อตารางเมตร) กระดาษที่มีแกรมสูงจะมีความหนาแน่นและความแข็งแรงมากกว่า กล่องที่ใช้กระดาษแกรมสูงจะรับแรงกระแทกและแรงกดทับได้ดีกว่า แม้จะมีจำนวนชั้นน้อยกว่าก็ตาม
- ชนิดของลอนลูกฟูก (Flute) : ลอนลูกฟูกมีหลายขนาด (เช่น ลอน C, B, E) ซึ่งแต่ละขนาดมีคุณสมบัติต่างกัน ลอนขนาดใหญ่จะช่วยในการรับแรงกระแทกและกันกระแทกได้ดี ในขณะที่ลอนขนาดเล็กจะรับแรงกดทับแนวราบได้ดีกว่า การเลือกใช้ชนิดลอนที่เหมาะสมกับสินค้าจึงส่งผลต่อความแข็งแรงโดยรวม
สรุป

การเลือกกล่องกระดาษลูกฟูกที่เหมาะสม ไม่สามารถตัดสินจากจำนวนชั้นได้เพียงอย่างเดียว แต่ต้องพิจารณาถึงคุณภาพของวัสดุ ทั้งเกรดกระดาษ แกรม และชนิดของลอนลูกฟูกประกอบกันเสมอ โดยทั่วไปแล้ว หากปัจจัยอื่นเหมือนกัน กล่อง 5 ชั้นจะแข็งแรงกว่า 3 ชั้นเสมอ
ดังนั้น ก่อนตัดสินใจควรประเมินจากลักษณะการใช้งานเป็นหลัก เช่น น้ำหนักของสินค้า, วิธีการขนส่ง, และความจำเป็นในการวางซ้อน เพื่อเลือกกล่องที่มีคุณสมบัติตรงตามความต้องการและคุ้มค่าที่สุด
หรืออาจสงสัยการปรึกษาผู้เชี่ยวชาญจากโรงงานผลิตบรรจุภัณฑ์โดยตรงก็เป็นอีกทางเลือกที่ดีที่จะได้บรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสมกับธุรกิจของคุณ