ความแตกต่างระหว่างมาตรฐานงานพิมพ์ยุโรป ISO 12647-2 VS มาตรฐานงานพิมพ์อเมริกา G7

มาตรฐานงานพิมพ์ยุโรป ISO 12647-2 และมาตรฐานงานพิมพ์อเมริกา G7 (ISO 15339 -2) สถาบันการพิมพ์ของเยอรมันคือ Fogra ออกจดหมายข่าวฉบับที่ 44
สีภาพของ 12647 (ซึ่งเน้นเม็ดสกรีนบวม) จะสดกว่า G7 (ซึ่งเน้นเม็ดสกรีนที่ผสมกันเป็นเทา) 12647 ใช้ซอฟท์แวร์พื้นฐานที่ติดมากับ RIP ของเครื่อง CTP

มาตรฐานงานพิมพ์ยุโรป ISO 12647-2 มาตรฐานสากลเพื่อคุณภาพงานพิมพ์

ISO 12647-2 เป็นมาตรฐานสากลที่กำหนดขึ้นเพื่อเป็นแนวทางในการควบคุมคุณภาพงานพิมพ์ออฟเซต ให้ได้ผลลัพธ์ที่สม่ำเสมอและตรงตามความต้องการของลูกค้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมสิ่งพิมพ์ในยุโรป

มาตรฐาน G7 มาตรฐานงานพิมพ์ให้ได้ค่าสีที่สม่ำเสมอ

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของสีเทา (Gray Balance) ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญในการควบคุมสีอื่นๆ ทั้งหมด

G7 ต้องใช้ซอฟท์แวร์เฉพาะ การทำ ICC Profile ของทั้งสองค่าย = ไม่มีค่ายไหนดีกว่ากัน การเทรนพนักงาน G7 ใช้เวลามากกว่า ถ้าการพิมพ์สีเพี๊ยน – 12647 ถ้าเม็ดสกรีนบวม ก็ลดค่า Den ถ้าเม็ดสกรีนอ่อนก็เพิ่มค่า Den
G7 ต้องย้อนไปดูว่า% เม็ดสกรีนของเทาถูกสร้างมาตรงกับกระดาษตัวนี้หรือไม่ ถ้ากระดาษคนละยี่ห้อก็ต้องสร้าง% ค่าเม็ดสกรีนเทาใหม่ ต้องพิมพ์ Test หาค่าเทาอีกครั้ง

อุปกรณ์ที่จำเป็นที่ใช้ในการปรับเทียบ

• เครื่องวัดสี (Spectrophotometer): ใช้สำหรับวัดค่าสีของแผ่นทดสอบ
• แผ่นทดสอบ เป็นตัวอย่างสีที่ใช้ในการวัดค่าสี
• ซอฟต์แวร์สำหรับการปรับเทียบ ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้จากการวัดสี และสร้างโปรไฟล์สี
• เครื่องพิมพ์ ใช้ในการพิมพ์แผ่นทดสอบ
• แสงมาตรฐาน (Standard Light Source)

ความแตกต่างของมาตรฐานงานพิมพ์ทั้ง 2 แบบ

สถาบันการพิมพ์ของเยอรมันคือ Fogra ให้ความเห็นว่า ในทางเทคนิคแล้ววิธีการวัดค่าของ G7® มีข้อเสียหลายประการ เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับการวัดค่าที่ซับซ้อนมากและการวิเคราะห์หรือข้อผิดพลาดในการพิมพ์ก็ยุ่งยาก แต่วิธีการของมาตรฐาน ISO 12647-2 นั้นง่ายต่อการเริ่มนำไปใช้ และช่วยให้ควบคุมกระบวนการพิมพ์ออฟเซตได้อย่างง่ายดายและแม่นยำ

สรุปได้ว่า ทั้งงานพิมพ์ ISO 12647-2 และงานพิมพ์ G7 เป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้โรงพิมพ์สามารถผลิตงานพิมพ์ที่มีคุณภาพสูงและสม่ำเสมอได้ การเลือกใช้มาตรฐานใดขึ้นอยู่กับความต้องการและลักษณะของงานพิมพ์