บรรจุภัณฑ์อาหารแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งยอดนิยมมีอะไรบ้าง

บรรจุภัณฑ์อาหารแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งยอดนิยมมีอะไรบ้าง

บรรจุภัณฑ์อาหารแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งที่ถูกใช้อยู่ในร้านค้า ร้านอาหารทุกวันนี้จะมีความหลากหลายทั้งในเรื่องของราคา คุณสมบัติ และรูปทรง เนื่องจากอาหารที่แต่ละอย่างต้องการบรรจุภัณฑ์ที่สามารถรองรับได้เหมาะสม นอกเหนือจากนั้นตัวบรรจุภัณฑ์มีรูปทรง หรือลวดลายที่โดดเด่นจะช่วยดึงดูดให้ผู้พบเห็นสนใจในตัวสินค้า และอาหารของคุณเพิ่มขึ้นได้ วันนี้เราจึงจะบอกเล่าว่าบรรจุภัณฑ์อาหารยอดนิยมที่ถูกใช้ในปัจจุบันนั้นจะมีอะไรบ้าง ไปดูกันเลย

บรรจุภัณฑ์อาหารแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งยอดนิยมมีอะไรบ้าง

โดยทั่วไปแล้วบรรจุภัณฑ์ชนิดใช้งานครั้งเดียวทิ้งจะมีให้เลือกหลากหลายชนิด หลายราคา ตามคุณสมบัติของตัวบรรจุภัณฑ์ ทำให้หากพูดถึงข้อดีของบรรจุภัณฑ์ชนิดนี้แล้วคงต้องแบ่งแยกออกเป็นหมวดหมู่ดังต่อไปนี้

บรรจุภัณฑ์อาหารใช้แล้วทิ้งชนิดกล่องกระดาษ

บรรจุภัณฑ์ใส่อาหารชนิดกระดาษ เป็นบรรจุภัณฑ์ที่ร้านค้า ร้านอาหาร แบรนด์ธุรกิจต่างนิยมใช้มากที่สุด เนื่องจากตัวกล่องมีคุณสมบัติต่างๆ ที่เหมาะสมกับการรองรับอาหารไม่แตกต่างจากกล่องโฟมแล้วยังมีคุณสมบัติอื่นๆ

บรรจุภัณฑ์ใส่อาหารชนิดกระดาษเป็นบรรจุภัณฑ์ชนิดใหม่ที่นิยมใช้งานสูงในปัจจุบัน ทั้งในร้านค้า ร้านอาหารเล็กไปจนถึงร้านใหญ่ๆ โดยตัวบรรจุภัณฑ์นอกจากถูกนำไปใส่อาหารแล้วยังถูกนำไปเป็นบรรจุภัณฑ์ใส่สิ่งต่างๆอีกมาก เช่น กล่องเก็บเอกสาร, กล่องไปรษณีย์, แก้ว, ชาม และถ้วยเป็นต้น

ข้อดีของบรรจุภัณฑ์อาหารชนิดกระดาษ

  • บรรจุภัณฑ์กระดาษเป็นบรรจุภัณฑ์รักษ์โลก ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และสัตว์ป่า
  • ตัวบรรจุภัณฑ์ถูกผลิตขึ้นมาจากกระดาษทำให้สามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ
  • สามารถเลือกพิมพ์ลวดลายต่างๆ หรือ Logo และแบรนด์ร้านของคุณลงบนตัวกล่องได้
  • สร้างความแตกต่าง และเพิ่มภาพลักษณ์ให้กับธุรกิจ
  • น้ำหนักเบา เหมาะสำหรับขนส่ง
  • บรรจุภัณฑ์กระดาษสามารถต้านไขมัน และน้ำมันได้
  • ออกแบบหรือเลือกรูปทรงของตัวกล่องกระดาษได้ตามต้องการ
  • ตัวบรรจุภัณฑ์กระดาษสามารถนำไปรีไซเคิลใช้งานใหม่ได้ 100%

ข้อเสียของบรรจุภัณฑ์อาหารชนิดกระดาษ

  • ตัวบรรจุภัณฑ์กระดาษป้องกันความชื้น และน้ำได้ไม่ดีนัก
  • ไม่ทนทานต่อการเจาะ ทะลุเท่าบรรจุภัณฑ์พลาสติก
  • ราคาจะสูงกว่าบรรจุภัณฑ์พลาสติก และกล่องโฟม

บรรจุภัณฑ์อาหารใช้แล้วทิ้งชนิดกล่องโฟม

บรรจุภัณฑ์อาหารใช้แล้วทิ้งชนิดกล่องโฟม
บรรจุภัณฑ์อาหารใช้แล้วทิ้งชนิดกล่องโฟม

เป็นบรรจุภัณฑ์อาหารชนิดที่มีราคาถูกที่สุดทำให้ร้านค้า ร้านอาหารขนาดเล็กนิยมใช้งานกัน โดยตัววัสดุผลิตจากเม็ดพลาสติกชนิดโพลิสไตรีน (Polystyrene, PS) ที่นำมาผ่านกระบวนการขยายตัวออกโดยใช้สาร (Blowing Agent) และสารเร่ง (Additive) ทำให้ตัวโฟมเกิดการฟูและพองตัว จากการใช้ความร้อนสูง แล้วจึงค่อยนำมาผลิตขึ้นรูปโดยแม่พิมพ์เป็นบรรจุภัณฑ์โฟมชนิดต่างๆ เช่น กล่องโฟมใส่อาหาร กล่องโฟมเก็บความเย็นเป็นต้น

ข้อดีของบรรจุภัณฑ์อาหารชนิดโฟม

  • บรรจุภัณฑ์อาหารชนิดโฟมเป็นบรรจุภัณฑ์ราคาถูกที่สุดในหมู่บรรจุภัณฑ์อาหารด้วยกัน
  • มีความแข็งแรงพอสมควร สามารถวางซ้อนเรียงกันบนตัวกล่องได้
  • นํ้าหนักเบา ลอยนํ้าได้ และสามารถขึ้นเป็นรูปต่างๆ ได้
  • มีขนาดและรูปทรงที่หลากหลาย สามารถเลือกใช้งานได้ตามความต้องการ

ข้อเสียของบรรจุภัณฑ์อาหารชนิดโฟม

  • เมื่อกล่องโฟมโดนความร้อนสูงจากอาหารที่ทำมาสดใหม่นั้นจะก่อให้เกิดสาร 2 ชนิดคือ สไตรีน (Styrene) และเบนซีน (Benzene) ซึ่งมีผลข้างเคียงต่อสุขภาพดังนี้
    • สารเบนซีน (Benzene) เมื่อร่างกายได้รับสารชนิดนี้เข้าสู่ร่างกายในช่วงแรกจะเกิดอาการซึม วิงเวียน คลื่นไส้ ใจสั่น และหมดสติ และยังเป็นสารก่อมะเร็งอีกด้วย
    • สารสไตรีน (Styrene) เมื่อได้รับเข้าสู่ร่างกาย จะทำลายฮอร์โมนในร่างกาย มีผลต่อระบบประสาทเม็ดเลือดแดง ตับ และไต
  • กล่องโฟมใส่อาหารเป็นปัญหาต่อสิ่งแวดล้อม และสัตว์ป่า เนื่องจากตัวกล่องโฟมไม่สามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ
  • ขั้นตอนการผลิตตัวบรรจุภัณฑ์กล่องโฟมจะปล่อยของเสียออกมาทั้งทางด้านน้ำ และอากาศ พร้อมทั้งปล่อยสาร CFC ออกมาทำลายชั้นบรรยากาศอีกด้วย
  • กล่องโฟมก่อให้เกิดมลภาวะทางขยะ ที่มาจากการเลือกทิ้งกล่องไม่เป็นที่เป็นทาง
  • ขั้นตอนการทำลายบรรจุภัณฑ์กล่องโฟมส่งผลสิ่งแวดล้อม และเป็นภัยต่อผู้สูดดมเข้าไปทั้งมีการไอ เจ็บคอ หายใจลำบาก รวมถึงสารสไตรีนที่ออกมาจากตัวกล่องในกระบวนการทำลายก็จะทำให้เกิดอาการผิดปกติ ระคายเคืองได้ด้วย

บรรจุภัณฑ์อาหารใช้แล้วทิ้งชนิดกล่องพลาสติก

บรรจุภัณฑ์อาหารใช้แล้วทิ้งชนิดกล่องพลาสติก
บรรจุภัณฑ์อาหารใช้แล้วทิ้งชนิดกล่องพลาสติก

บรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดนี้จะมีชนิดที่หลากหลาย ทำให้ตัวกล่องมีราคาตั้งแต่ถูกไปจนสูง ขึ้นอยู่ที่ชนิดของพลาสติกที่นำมาใช้ทำบรรจุภัณฑ์นั้นๆ แต่ทั่วไปแล้วพลาสติกที่นำมาใช้ทำเป็นบรรจุภัณฑ์จะมีอยู่ 4 ชนิดด้วยกัน ดังนี้

  1. บรรจุภัณฑ์ใส่อาหารพลาสติก PP (Polypropylene)
    • คุณสมบัติ: พลาสติก PP มีคุณสมบัติทนทานต่อความร้อนสูง สามารถนำเข้าไมโครเวฟได้โดยไม่เกิดสารปนเปื้อน เป็นมิตรต่อสุขภาพ
    • การใช้งาน: เหมาะสำหรับการเก็บอาหารทั้งร้อนและเย็น เหมาะกับการใช้ซ้ำหลายครั้ง เช่น การเตรียมอาหารกลางวันเพื่อพกพาไปทำงาน หรืออุ่นอาหารจากตู้เย็น
    • ความเหมาะสม: เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความสะดวกในการเก็บและอุ่นอาหารในภาชนะเดียวกัน ช่วยประหยัดเวลาและลดการใช้บรรจุภัณฑ์หลายชิ้น
  2. บรรจุภัณฑ์ใส่อาหารพลาสติก PET (Polyethylene Terephthalate)
    • คุณสมบัติ: พลาสติก PET โปร่งใส ทำให้เห็นอาหารภายในได้อย่างชัดเจน แต่ไม่ทนต่อความร้อนสูง จึงไม่ควรนำเข้าไมโครเวฟ
    • การใช้งาน: นิยมใช้ในการเก็บอาหารเย็น เช่น สลัด ผลไม้ หรือของหวานที่ต้องการเก็บในตู้เย็น
    • ความเหมาะสม: เหมาะสำหรับการจัดเก็บอาหารที่ต้องการคงความสดใหม่ เหมาะกับร้านอาหารหรือบุคคลที่ต้องการจัดเก็บอาหารในลักษณะที่ดูสวยงามและปลอดภัยในระยะสั้น
  3. บรรจุภัณฑ์ใส่อาหารพลาสติก HDPE (High-Density Polyethylene)
    • คุณสมบัติ: HDPE มีความทนทานต่อการกระแทกและสารเคมี สามารถเก็บอาหารได้ในอุณหภูมิที่ไม่สูงมาก แต่ไม่แนะนำให้นำเข้าไมโครเวฟ
    • การใช้งาน: เหมาะสำหรับการเก็บอาหารแห้งหรืออาหารที่ไม่ต้องการอุ่นร้อน เช่น ขนมปัง แซนวิช หรืออาหารที่ใช้ในการเดินทาง
    • ความเหมาะสม: เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการกล่องข้าวที่มีความแข็งแรง ทนทาน และสามารถเก็บอาหารได้ในสภาพแวดล้อมหลากหลาย
  4. บรรจุภัณฑ์ใส่อาหารพลาสติก PS (Polystyrene)
    • คุณสมบัติ: พลาสติก PS มีน้ำหนักเบาและราคาถูก แต่ไม่ทนความร้อนสูง มักใช้ในกล่องบรรจุอาหารที่ใช้ครั้งเดียว
    • การใช้งาน: นิยมใช้ในการใส่อาหารสำเร็จรูปหรืออาหารที่ต้องการเก็บในระยะเวลาสั้นๆ เช่น อาหารจานด่วน อาหารขายตามร้านสะดวกซื้อ
    • ความเหมาะสม: เหมาะสำหรับการใช้งานชั่วคราว เช่น งานเลี้ยง หรืองานที่ต้องใช้กล่องข้าวจำนวนมากในงบประมาณที่ประหยัด

ข้อดีของบรรจุภัณฑ์อาหารชนิดพลาสติก

  • บรรจุภัณฑ์พลาสติกมีราคาที่ค่อนข้างถูก เมื่อเทียบกับบรรจุภัณฑ์กระดาษ
  • ตัวพลาสติกมีคุณสมบัติเหนียว และน้ำหนักเบา
  • บรรจุภัณฑ์พลาสติกไม่นำความร้อน และกระแสไฟฟ้า
  • ตัวบรรจุภัณฑ์พลาสติกใส่อาหารสามารถป้องกันการรั่วซึมของอากาศ และน้ำได้ดี
  • บรรจุภัณฑ์พลาสติกสามารถทนทานต่อความชื้น และไม่เป็นสนิม
  • สามารถพิมพ์ลวดลาย และ Logo หรือแบรนด์ลงบนตัวกล่องได้

ข้อเสียของบรรจุภัณฑ์อาหารชนิดพลาสติก

  • บรรจุภัณฑ์พลาสติกที่ถูกผลิตขึ้นโดยไม่ได้มาตรฐานพอ จะทำให้เกิดการปนเปื้อนของสารเคมี และส่งผลต่ออาหารที่ตัวกล่องรองรับได้
  • ตัวบรรจุภัณฑ์พลาสติกใช้เวลาย่อยสลายยาวนานกว่า 300 ปี
  • กล่องโฟมใส่อาหารเป็นปัญหาต่อสิ่งแวดล้อม และสัตว์ป่า เนื่องจากตัวกล่องโฟมไม่สามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ
  • บรรจุภัณฑ์พลาสติกส่งผลให้เกิดมลภาวะทางขยะ และส่งผลร้ายต่อสิ่งแวดล้อม
  • บรรจุภัณฑ์พลาสติกบางชนิดแตกหักได้ง่าย

สรุป

บรรจุภัณฑ์อาหารแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งยอดนิยมทั่วไปแล้วจะแบ่งออกเป็น 3 ชนิดด้วยกัน ได้ แก่ กล่องโฟม, กล่องพลาสติก และกล่องกระดาษใส่อาหาร ทั้งสามชนิดนี้จะมีคุณสมบัติและราคาที่แตกต่างกันออกไปตามแต่ละตัวบรรจุภัณฑ์ เพียงแต่ว่าตัวกล่องกระดาษใส่อาหารจะมีความโดดเด่นที่สุดในเรื่องของการใช้เพื่อการสร้างความโดดเด่น สวยงาม สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจของคุณได้

โดยหากสนใจสามารถเลือกซื้อกล่องกระดาษใส่อาหารหงส์ไทยผลิตและจำหน่ายภาชนะบรรจุภัณฑ์ต่างๆ ได้ที่ hongthaipackaging.com/food-beverage-packaging/

แนะนำสินค้าจากโรงงาน

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า | แจ้งยกเลิกการประมวลผลข้อมูล

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์และโฆษณา

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลวส่วนบบุคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ Cookies ที่เราใช้งานได้แก่ Google Analytics และ Facebook Pixel

บันทึกการตั้งค่า