วิธีเลือกกล่องบรรจุผลไม้ให้เหมาะสม แข็งแรง และปลอดภัย

การเลือกกล่องสำหรับบรรจุผลไม้มีความสำคัญอย่างมาก เนื่องจากสินค้าชนิดผลไม้นั้นมีความเปราะบางสูง หากตัวบรรจุภัณฑ์หรือกล่องบรรจุผลไม้มีขนาดที่ไม่เหมาะสม และมีความสามารถในการดูดซับแรงกระแทกได้ไม่ดีพอ จะทำให้สินค้าเสียหาย หรืออาจจะทำให้ความาสดของผลไม้ลดลงได้ เพราะฉะนั้นบรรจุภัณฑ์ที่ดีต้องป้องกันความเสียหายระหว่างการขนส่ง รักษาความสดของผลไม้ และช่วยเสริมภาพลักษณ์ของแบรนด์ โดยกล่องผลไม้ที่ดีควรมีคุณสมบัติดังนี้

บรรจุภัณฑ์ต้องใช้วัสดุแข็งแรง รองรับน้ำหนักได้ดี

กล่องบรรจุผลไม้ที่แข็งแรงควรเลือกใช้เป็นกล่องกระดาษลูกฟูก (Corrugated Box) แบบหนา เพื่อให้กล่องสามารถรับน้ำหนักผลไม้ได้โดยไม่เสียรูปง่าย โดยผลไม้แต่ละชนิดก็จะมีคำแนะนำการเลือกใช้งานต่างกันออกไป ดังนี้

• ผลไม้ที่มีน้ำหนักเบา (องุ่น, สตรอว์เบอร์รี, เชอร์รี) : ใช้กล่องลูกฟูก 3 ชั้น
• ผลไม้ที่มีน้ำหนักปานกลาง (แอปเปิล, ส้ม, มะม่วง) : ใช้กล่องลูกฟูก 5 ชั้น
• ผลไม้ที่มีน้ำหนักมาก (ทุเรียน, มะพร้าว, แตงโม) : ใช้กล่องลูกฟูกหนาพิเศษ หรือเสริมโครงสร้างภายใน

ตัวกล่องต้องมีระบบระบายอากาศ (Ventilation Holes)

กล่องบรรจุภัณฑ์ที่ใส่ผลไม้จำเป็นต้องมีรูระบายอากาศเพื่อให้มีการไหลเวียนของอากาศภายในตัวกล่อง เพื่อที่จะช่วยป้องกันความชื้นสะสมในตัวกล่อง และลดโอกาสการเกิดเชื้อรา รวมถึงยังจะช่วยรักษาคุณภาพผลไม้เอาไว้ได้ด้วย

บรรจุภัณฑ์ต้องมีความปลอดภัยไร้สารเจือปน

กล่องบรรจุภัณฑ์ที่ใส่ผลไม้เป็นอาหารชนิดหนึ่งทำให้ตัวกล่องมีความจำเป็นจะต้องเป็นชนิดแบบ Food Grade หรือกระดาษที่ผ่านมาตรฐาน FSC และ ISO 22000 เพื่อเป็นการการันตีว่าสารเคมีไม่ตกค้างลงบนกล่องบรรจุภัณฑ์ หรือผลไม้ที่อยู่ด้านในกล่อง และช่วยให้มั่นใจว่าปลอดภัยต่อผู้บริโภคครับ

กล่องต้องขนาดพอดีกับผลไม้

กล่องบรรจุภัณฑ์ที่ดีควรมีขนาดพอดีกับผลไม้ ไม่ใหญ่เกินเกินไปจนไหลไปกระแทกกันระหว่างขนส่ง และไม่เล็กเกินไปจนเกิดการกดทับ

ตัวอย่างขนาดกล่องผลไม้ที่ หงส์ไทยฯ มีจำหน่าย

• กล่องผลไม้ 5 กก.: ขนาด 36 x 28 x 11 ซม. (เหมาะสำหรับผลไม้ขนาดเล็กถึงกลาง เช่น ส้ม, แอปเปิล)
• กล่องผลไม้ 10 กก.: ขนาด 45 x 35 x 15 ซม. (เหมาะสำหรับผลไม้ขนาดกลางถึงใหญ่ เช่น มะม่วง, แก้วมังกร)
• กล่องผลไม้ 15 กก.: ขนาด 55 x 40 x 20 ซม. (เหมาะสำหรับผลไม้ขนาดใหญ่ เช่น ทุเรียน, แตงโม)

หมายเหตุ: ขนาดกล่องอาจปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการของลูกค้า

บรรจุภัณฑ์ต้องเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Eco-Friendly Packaging)

เลือกใช้กล่องที่ทำจากกระดาษรีไซเคิล 100% หรือสามารถ ย่อยสลายได้ง่าย เพราะนอกจากคุณจะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยโลกแล้ว ยังช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีกับให้ธุรกิจ ตัวอย่างบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมีดังนี้

• บรรจุภัณฑ์ที่ทำจากวัสดุธรรมชาติจำพวกกล่องกระดาษลูกฟูก เช่น เยื่อกระดาษ ใบตอง หรือฟางข้าว สามารถย่อยสลายได้ง่ายและไม่ก่อมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม
• บรรจุภัณฑ์ที่ทำจากวัสดุชีวภาพ เช่น พลาสติกชีวภาพที่ผลิตจากอ้อย มันสำปะหลัง หรือข้าวโพด

สรุป

กล่องบรรจุภัณฑ์สำหรับใส่ผลไม้ที่ดีต้องมีความแข็งแรง ทนทาน ไร้สารเคมีเจือปนทำให้ปลอดภัยต่อผู้บริโภค รวมถึงตัวกล่องต้องมีขนาดพอดีกับผลไม้ และยังต้องมีรูระบายอากาศที่จะช่วยให้อากาศถ่ายเทอยู๋ตลอดเวลา นอกจากนี้ถ้าจะให้ดีตัวกล่องบรรจุภัณฑ์ต้องเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อช่วยส่งเสริมการขาย และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับแบรนด์ได้อีกด้วย