ในโลกธุรกิจที่การแข่งขันสูง บรรจุภัณฑ์ไม่ได้เป็นเพียงแค่สิ่งที่ใช้ห่อหุ้มสินค้าอีกต่อไป แต่เป็นเครื่องมือทางการตลาดชิ้นสำคัญที่สร้างความประทับใจแรก (First Impression) และสื่อสารตัวตนของแบรนด์ไปยังผู้บริโภค
การเลือกวัสดุในการผลิตกล่องจึงเป็นหัวใจสำคัญที่ผู้ประกอบการไม่อาจมองข้าม และหนึ่งในวัสดุที่ได้รับความนิยมสูงสุดในอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ก็คือ กระดาษหน้าขาวหลังเทา หรือที่รู้จักกันในชื่อสากลว่า Duplex Board

หงส์ไทยแพคเกจจิ้ง เราเข้าใจถึงความต้องการของลูกค้าที่มองหาบรรจุภัณฑ์คุณภาพดี พิมพ์สวยงามคมชัด ในต้นทุนที่สมเหตุสมผล บทความนี้จึงขออาสาพาคุณไปเจาะลึกทุกแง่มุมของกระดาษชนิดนี้ เพื่อให้คุณตัดสินใจเลือกวัสดุสำหรับกล่องแบรนด์ของคุณได้อย่างมั่นใจที่สุด
หัวข้อย่อยมีอะไรบ้าง ?
กระดาษหน้าขาวหลังเทา (Duplex Board) คืออะไร?

กระดาษหน้าขาวหลังเทาคือกระดาษแข็งประเภทหนึ่งที่มีลักษณะเด่นตามชื่อเรียก คือ มีผิวหน้าด้านหนึ่งเป็นสีขาว และอีกด้านหนึ่งเป็นสีเทาหรือสีน้ำตาล โครงสร้างที่เป็นเอกลักษณ์นี้เกิดขึ้นจากกระบวนการผลิตที่แตกต่างกันในแต่ละชั้น
- ผิวหน้า (Top Liner) : เป็นชั้นบนสุด ทำจากเยื่อกระดาษใหม่ (Virgin Pulp) หรือเยื่อกระดาษรีไซเคิลคุณภาพสูงที่ผ่านการฟอกขาว แล้วเคลือบผิวให้เรียบเนียนเป็นพิเศษ (Coated) พื้นผิวส่วนนี้จึงมีความขาวสว่าง เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการรองรับหมึกพิมพ์ในระบบออฟเซ็ท (Offset Printing) ทำให้ได้ภาพพิมพ์และสีสันที่สวยงาม คมชัด สมจริง
- ไส้กลางและผิวหลัง (Filler & Back Liner) : เป็นชั้นกระดาษด้านในและด้านหลัง ซึ่งส่วนใหญ่มักทำมาจากเยื่อกระดาษรีไซเคิล (Recycled Pulp) ที่ไม่ได้ผ่านการฟอกสี ทำให้มีสีเทาหรือน้ำตาลตามธรรมชาติ ชั้นนี้มีหน้าที่หลักในการเสริมความแข็งแรง ความหนา และความแกร่งให้กับตัวกระดาษโดยรวม
ด้วยโครงสร้าง 2 ชั้นนี้เอง ทำให้กระดาษ Duplex Board เป็นการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างความสวยงามของพื้นผิวหน้า และความแข็งแรงพร้อมต้นทุนที่คุ้มค่าของผิวหลัง
ทำไมกระดาษหน้าขาวหลังเทา ถึงเป็นตัวเลือกยอดฮิตในการทำกล่อง?

เหตุผลที่ผู้ประกอบการและโรงพิมพ์ชั้นนำอย่าง หงส์ไทยแพคเกจจิ้ง ต่างเลือกใช้กระดาษชนิดนี้ในการผลิตกล่องบรรจุภัณฑ์ สามารถสรุปเป็นข้อดีหลักๆ ได้ดังนี้
1. คุณภาพงานพิมพ์ที่โดดเด่น (Excellent Printability)
นี่คือจุดแข็งที่สุดของกระดาษหน้าขาวหลังเทา ด้วยผิวหน้าสีขาวที่ผ่านการเคลือบมาอย่างดี ทำให้การดูดซับหมึกเป็นไปอย่างสม่ำเสมอ สามารถพิมพ์ภาพกราฟิก โลโก้ หรือข้อความด้วยระบบออฟเซ็ท CMYK ได้อย่างสวยงาม
รวมถึงให้สีสันที่สดใสและความคมชัดสูง เทียบเท่ากระดาษอาร์ตการ์ดราคาแพง จึงเหมาะสำหรับกล่องที่ต้องการโชว์ความสวยงามของดีไซน์ เช่น กล่องเครื่องสำอาง กล่องครีม หรือกล่องอาหารเสริม
2. ความแข็งแรงทนทาน (Rigidity and Durability)
แม้ด้านหลังจะเป็นเยื่อรีไซเคิล แต่ด้วยความหนาและโครงสร้างของกระดาษที่หลากหลาย ทำให้กระดาษ Duplex Board มีความคงรูปและแข็งแรงเพียงพอที่จะปกป้องสินค้าที่อยู่ภายในจากการกระแทกเล็กๆ น้อยๆ หรือการกดทับระหว่างการขนส่งได้เป็นอย่างดี
3. ต้นทุนที่คุ้มค่าที่สุด (Cost-Effective)
การใช้เยื่อกระดาษรีไซเคิลในส่วนของไส้และผิวหลัง ทำให้ต้นทุนการผลิตกระดาษ Duplex Board ถูกกว่ากระดาษที่ทำจากเยื่อใหม่ 100% อย่างกระดาษอาร์ตการ์ดอย่างเห็นได้ชัด
สิ่งนี้ส่งผลโดยตรงต่อต้นทุนการผลิตกล่องบรรจุภัณฑ์ ทำให้ผู้ประกอบการสามารถควบคุมงบประมาณได้ง่ายขึ้น โดยที่ยังคงได้กล่องที่มีคุณภาพและความสวยงาม ถือเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าที่สุดในตลาด
4. ความหลากหลายในการใช้งาน (Versatility)
กระดาษชนิดนี้สามารถนำไปผลิตเป็นกล่องบรรจุภัณฑ์สำหรับสินค้าได้แทบทุกประเภทในกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค (Consumer Goods) ที่ไม่ได้สัมผัสกับอาหารโดยตรง ตั้งแต่สินค้าขนาดเล็กไปจนถึงขนาดกลาง
แกรมกระดาษ (Grammage) เลือกความหนาให้เหมาะกับสินค้าของคุณ

แกรม คือหน่วยวัดน้ำหนักของกระดาษต่อพื้นที่ 1 ตารางเมตร ซึ่งบ่งบอกถึงความหนาและความแข็งแรงของกระดาษ การเลือกแกรมที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพราะจะส่งผลต่อความสามารถในการรับน้ำหนักและภาพลักษณ์ของบรรจุภัณฑ์โดยตรง
สำหรับกระดาษหน้าขาวหลังเทา แกรมที่นิยมใช้ในท้องตลาดมีดังนี้
- 270 แกรม : เหมาะสำหรับกล่องขนาดเล็ก น้ำหนักเบา เช่น กล่องสบู่ก้อน, กล่องลิปสติก, กล่องสินค้าทดลอง
- 300 แกรม : เป็นแกรมที่เริ่มมีความแข็งแรง เหมาะกับสินค้าที่ใหญ่ขึ้นมาเล็กน้อย เช่น กล่องครีมขนาดเล็ก, กล่องยา, กล่องไพ่
- 350 แกรม : เป็นแกรมที่ได้รับความนิยมสูงสุด! เพราะมีความหนาและแข็งแรงที่สมดุล สามารถรองรับสินค้าได้หลากหลายประเภท เป็นตัวเลือกมาตรฐานสำหรับ กล่องอาหารเสริม, กล่องเครื่องสำอาง, กล่องเซรั่ม, กล่องสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ขนาดเล็ก
- 400 แกรม : สำหรับสินค้าที่มีน้ำหนักมากขึ้น หรือต้องการความแข็งแรงเป็นพิเศษ เช่น กล่องของเล่น, กล่องอะไหล่รถยนต์, กล่องอุปกรณ์ขนาดเล็ก
- 450 – 500 แกรม : ใช้กับกล่องที่ต้องการการป้องกันสูงมาก หรือกล่องที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่
คำแนะนำจากหงส์ไทย การเลือกแกรมควรพิจารณาจาก “น้ำหนักและขนาดของสินค้า” เป็นหลัก หากไม่แน่ใจ การปรึกษาผู้เชี่ยวชาญของเราจะช่วยให้คุณได้กล่องที่แข็งแรงพอดีและไม่สิ้นเปลืองงบประมาณโดยใช่เหตุ
การประยุกต์ใช้กระดาษหน้าขาวหลังเทาในอุตสาหกรรมต่างๆ

เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนขึ้น นี่คือตัวอย่างการนำกระดาษ Duplex Board ไปผลิตเป็นกล่องบรรจุภัณฑ์ที่พบเห็นได้ทั่วไป
- กลุ่มสุขภาพและความงาม : กล่องครีม, กล่องเซรั่ม, กล่องสบู่, กล่องมาสก์หน้า, กล่องเครื่องสำอาง, กล่องอาหารเสริมและวิตามิน
- กลุ่มสินค้าอุปโภค : กล่องยาสีฟัน, กล่องผงซักฟอกขนาดเล็ก, กล่องหลอดไฟ, กล่องถ่านไฟฉาย
- กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม (บรรจุภัณฑ์ชั้นนอก) : กล่องชา, กล่องกาแฟซอง, กล่องขนมที่ห่อด้วยพลาสติกด้านในอีกชั้นหนึ่ง
- กลุ่มสินค้าอื่นๆ : กล่องของเล่น, กล่องเครื่องเขียน, กล่องไพ่, กล่องอะไหล่ชิ้นส่วน, กล่องสินค้าไอที
เปรียบเทียบชัดๆ กระดาษหน้าขาวหลังเทา vs กระดาษอาร์ตการ์ด


อีกหนึ่งคำถามที่พบบ่อยคือ กระดาษสองชนิดนี้แตกต่างกันอย่างไร และควรเลือกใช้อะไรดี?
คุณสมบัติ | กระดาษหน้าขาวหลังเทา (Duplex Board) | กระดาษอาร์ตการ์ด (Art Card Paper) |
โครงสร้าง | ผิวหน้าขาวเคลือบ, ผิวหลังเทา/น้ำตาล | ทำจากเยื่อใหม่ทั้งสองด้าน |
สีด้านหลัง | เทา หรือ น้ำตาล | ขาว |
ความเรียบเนียน | ผิวหน้าเรียบเนียน, ผิวหลังหยาบกว่า | เรียบเนียนทั้งสองด้าน |
ความรู้สึก | ให้ความรู้สึกแข็งแรง ทนทาน | ให้ความรู้สึกพรีเมียม เนื้อแน่น |
ราคา | คุ้มค่ากว่า / ถูกกว่า | สูงกว่า |
เหมาะสำหรับ | กล่องสินค้าทั่วไปที่เน้นความคุ้มค่าและงานพิมพ์สวยงาม | กล่องสินค้าพรีเมียม, นามบัตร, การ์ด, ปกหนังสือ |
ยกระดับกล่องของคุณด้วยเทคนิคพิมพ์พิเศษ

แม้จะเป็นกระดาษที่คุ้มค่า แต่คุณสามารถเพิ่มมูลค่าและความน่าสนใจให้กับกล่องกระดาษหน้าขาวหลังเทาได้อย่างไม่น่าเชื่อด้วยเทคนิคหลังการพิมพ์ (Post-Press) ต่างๆ เช่น
- การเคลือบ : เคลือบ PVC ด้าน/เงา, เคลือบ Spot UV เฉพาะจุดเพื่อเพิ่มมิติ
- การปั๊ม : ปั๊มฟอยล์ (เคเงิน/เคทอง) เพื่อความหรูหรา, ปั๊มนูน/ปั๊มจม (Embossing/Debossing) เพื่อสร้างผิวสัมผัส
ทำไมต้องเลือกผลิตกล่องกระดาษหน้าขาวหลังเทากับ หงส์ไทยแพคเกจจิ้ง?

เพราะเราไม่ใช่แค่โรงพิมพ์ แต่เราคือ “ที่ปรึกษาด้านบรรจุภัณฑ์” ครบวงจร
- ความเชี่ยวชาญ : เรามีประสบการณ์ยาวนานในการเลือกสรรและใช้กระดาษ Duplex Board คุณภาพสูงที่เหมาะกับงานพิมพ์ออฟเซ็ทโดยเฉพาะ
- คุณภาพการพิมพ์ : ด้วยเครื่องพิมพ์ที่ทันสมัยและทีมงานมืออาชีพ เราการันตีงานพิมพ์ที่สีสันสดใส คมชัดทุกรายละเอียด
- บริการครบวงจร (One-Stop Service) : ตั้งแต่ให้คำปรึกษา, การออกแบบ, การผลิต, การพิมพ์, ไดคัท, ปั๊ม, จนถึงการจัดส่ง จบในที่เดียว
- ราคาที่แข่งขันได้ : เราสามารถจัดหาวัสดุและบริหารจัดการการผลิตเพื่อให้คุณได้กล่องคุณภาพในต้นทุนที่ดีที่สุด
กระดาษหน้าขาวหลังเทา ไม่ใช่แค่กระดาษ แต่เป็นโอกาสในการสร้างสรรค์บรรจุภัณฑ์ที่แข็งแรง สวยงาม และชาญฉลาดสำหรับแบรนด์ของคุณ เป็นการลงทุนที่สมบูรณ์แบบระหว่างคุณภาพและราคาที่พิสูจน์แล้วในทุกอุตสาหกรรม
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

โดยทั่วไปแล้ว กระดาษหน้าขาวหลังเทามาตรฐานจะ ไม่แนะนำ ให้ใช้สัมผัสกับอาหารโดยตรง เนื่องจากผิวหลังทำจากเยื่อรีไซเคิลที่อาจไม่ผ่านมาตรฐาน Food Grade เหมาะสำหรับใช้เป็นบรรจุภัณฑ์ชั้นนอก (Secondary Packaging) เช่น กล่องใส่ขนมที่ซีลในซองพลาสติกแล้ว หรือกล่องพิซซ่าที่มักมีกระดาษรองอีกชั้นหนึ่ง
ตัวกระดาษเองไม่กันน้ำ แต่สามารถเพิ่มคุณสมบัติการกันน้ำ (ละอองน้ำ, ความชื้น) ได้ด้วยการ เคลือบ PVC ทั้งแบบเงาและแบบด้าน ซึ่งนอกจากจะช่วยป้องกันความเสียหายจากน้ำแล้ว ยังช่วยเพิ่มความสวยงามและความทนทานให้กับกล่องอีกด้วย
จำนวนการสั่งผลิตขั้นต่ำ (MOQ) จะขึ้นอยู่กับขนาดและสเปกของกล่องที่ลูกค้าต้องการ เพื่อให้ได้ราคาต่อหน่วยที่คุ้มค่าที่สุด เราแนะนำให้ลูกค้าติดต่อทีมขายของเราโดยตรงเพื่อขอใบเสนอราคาและคำปรึกษาสำหรับโปรเจกต์ของคุณโดยเฉพาะ
โดยปกติแล้วจะไม่นิยมพิมพ์ลงบนด้านสีเทาโดยตรง เนื่องจากผิวไม่เรียบและสีของพื้นผิวจะทำให้สีหมึกเพี้ยนไป แต่สามารถทำได้ในกรณีที่ต้องการดีไซน์พิเศษจริงๆ หรืออาจใช้วิธีการประกบกระดาษพิมพ์ลายทับลงไปแทน ซึ่งจะมีต้นทุนที่สูงขึ้น
ระยะเวลาการผลิตจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น จำนวนที่สั่ง, ความซับซ้อนของดีไซน์, และเทคนิคพิเศษหลังการพิมพ์ โดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 7-20 วันทำการหลังจากลูกค้ายืนยันแบบพิมพ์แล้ว อย่างไรก็ตาม กรุณาตรวจสอบกับฝ่ายขายเพื่อรับกำหนดการที่แน่นอนที่สุด