บรรจุภัณฑ์ใช้ครั้งเดียวทิ้ง (Single-use) คือ บรรจุภัณฑ์ชนิดที่ไม่สามารถนำมาล้างทำความสะอาดแล้วใช้งานใหม่ได้ เนื่องจากคุณภาพและตัวบรรจุภัณฑ์เหล่านั้นจะไม่สามารถคงสภาพ และเสื่อมลงได้หลังทำการล้างหรือใช้งานแล้ว
ส่วนมากบรรจุภัณฑ์เหล่านี้มักพบเห็นในชีวิตประจำวันของเรากันอยู่ตัวอย่างเช่น ถุงพลาสติก, กล่องโฟมใส่อาหาร, กล่องกระดาษใส่อาหารเป็นต้น
ด้วยสาเหตุที่บรรจุภัณฑ์ชนิดนี้อยู่ใกล้ตัวพวกเรามากกว่าที่คิดทำให้หลายๆ คน อาจสงสัยว่าข้อดีของมันมีอะไรบ้างทำไมถึงเป็นที่นิยมใช้งานกันจัง หาคำตอบได้ในบทความนี้ครับ
หัวข้อย่อยมีอะไรบ้าง ?
ข้อดี-ข้อเสียของบรรจุภัณฑ์อาหารใช้ครั้งเดียวทิ้ง (Single-use) ที่ควรรู้
โดยทั่วไปแล้วบรรจุภัณฑ์ชนิดใช้งานครั้งเดียวทิ้งจะมีให้เลือกหลากหลายชนิด หลายราคา ตามคุณสมบัติของตัวบรรจุภัณฑ์ ทำให้หากพูดถึงข้อดีของบรรจุภัณฑ์ชนิดนี้แล้วคงต้องแบ่งแยกออกเป็นหมวดหมู่ดังต่อไปนี้
1. บรรจุภัณฑ์อาหารชนิดกล่องโฟม
เป็นบรรจุภัณฑ์อาหารชนิดที่มีราคาถูกที่สุดทำให้ร้านค้า ร้านอาหารขนาดเล็กนิยมใช้งานกัน โดยตัววัสดุผลิตจากเม็ดพลาสติกชนิดโพลิสไตรีน (Polystyrene, PS) ที่นำมาผ่านกระบวนการขยายตัวออกโดยใช้สาร (Blowing Agent) และสารเร่ง (Additive)
ทำให้ตัวโฟมเกิดการฟูและพองตัว จากการใช้ความร้อนสูง แล้วจึงค่อยนำมาผลิตขึ้นรูปโดยแม่พิมพ์เป็นบรรจุภัณฑ์โฟมชนิดต่างๆ เช่น กล่องโฟมใส่อาหาร กล่องโฟมเก็บความเย็นเป็นต้น
ข้อดีของบรรจุภัณฑ์อาหารชนิดโฟม
- บรรจุภัณฑ์อาหารชนิดโฟมเป็นบรรจุภัณฑ์ราคาถูกที่สุดในหมู่บรรจุภัณฑ์อาหารด้วยกัน
- ตัวกล่องโฟมสามารถรองรับอาหารได้เหมื่อนบรรจุภัณฑ์ชนิดอื่นๆ
- มีความแข็งแรงพอสมควร สามารถวางซ้อนเรียงกันได้
- มีนํ้าหนักเบา ลอยนํ้าได้ และสามารถขึ้นเป็นรูปต่างๆ ได้
- มีขนาดและรูปทรงที่หลากหลาย สามารถเลือกใช้งานได้ตามความต้องการ
ข้อเสียของบรรจุภัณฑ์อาหารชนิดโฟม
- เมื่อกล่องโฟมโดนความร้อนสูงจากอาหารที่ทำมาสดใหม่นั้นจะก่อให้เกิดสาร 2 ชนิดคือ สไตรีน (Styrene) และเบนซีน (Benzene) ซึ่งมีผลข้างเคียงต่อสุขภาพดังนี้
- สารเบนซีน (Benzene) เมื่อร่างกายได้รับสารชนิดนี้เข้าสู่ร่างกายในช่วงแรกจะเกิดอาการซึม วิงเวียน คลื่นไส้ ใจสั่น และหมดสติ และยังเป็นสารก่อมะเร็งอีกด้วย
- สารสไตรีน (Styrene) เมื่อได้รับเข้าสู่ร่างกาย จะทำลายฮอร์โมนในร่างกาย มีผลต่อระบบประสาทเม็ดเลือดแดง ตับ และไต
- กล่องโฟมใส่อาหารเป็นปัญหาต่อสิ่งแวดล้อม และสัตว์ป่า เนื่องจากตัวกล่องโฟมไม่สามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ
- ขั้นตอนการผลิตตัวบรรจุภัณฑ์กล่องโฟมจะปล่อยของเสียออกมาทั้งทางด้านน้ำ และอากาศ พร้อมทั้งปล่อยสาร CFC ออกมาทำลายชั้นบรรยากาศอีกด้วย
- กล่องโฟมก่อให้เกิดมลภาวะทางขยะ ที่มาจากการเลือกทิ้งกล่องไม่เป็นที่เป็นทาง
- ขั้นตอนการทำลายบรรจุภัณฑ์กล่องโฟมส่งผลสิ่งแวดล้อม และเป็นภัยต่อผู้สูดดมเข้าไปทั้งมีการไอ เจ็บคอ หายใจลำบาก รวมถึงสารสไตรีนที่ออกมาจากตัวกล่องในกระบวนการทำลายก็จะทำให้เกิดอาการผิดปกติ ระคายเคืองได้ด้วย
2. บรรจุภัณฑ์อาหารชนิดกล่องพลาสติก
บรรจุภัณฑ์ใส่อาหารชนิดกล่องพลาสติกก็เป็นบรรจุภัณฑ์ที่มีราคาตั้งแต่ถูกไปจนสูง ขึ้นอยู่ที่ชนิดของพลาสติกในการผลิต รวมถึงคุณสมบัติต่างๆด้วย โดยสามารถแบ่งแยกบรรจุภัณฑ์พลาสติกเป็น 4 ชนิด ได้แก่
- บรรจุภัณฑ์ใส่อาหารพลาสติก PP (Polypropylene)
- คุณสมบัติ: พลาสติก PP มีคุณสมบัติทนทานต่อความร้อนสูง สามารถนำเข้าไมโครเวฟได้โดยไม่เกิดสารปนเปื้อน เป็นมิตรต่อสุขภาพ
- การใช้งาน: เหมาะสำหรับการเก็บอาหารทั้งร้อนและเย็น เหมาะกับการใช้ซ้ำหลายครั้ง เช่น การเตรียมอาหารกลางวันเพื่อพกพาไปทำงาน หรืออุ่นอาหารจากตู้เย็น
- ความเหมาะสม: เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความสะดวกในการเก็บและอุ่นอาหารในภาชนะเดียวกัน ช่วยประหยัดเวลาและลดการใช้บรรจุภัณฑ์หลายชิ้น
- บรรจุภัณฑ์ใส่อาหารพลาสติก PET (Polyethylene Terephthalate)
- คุณสมบัติ: พลาสติก PET โปร่งใส ทำให้เห็นอาหารภายในได้อย่างชัดเจน แต่ไม่ทนต่อความร้อนสูง จึงไม่ควรนำเข้าไมโครเวฟ
- การใช้งาน: นิยมใช้ในการเก็บอาหารเย็น เช่น สลัด ผลไม้ หรือของหวานที่ต้องการเก็บในตู้เย็น
- ความเหมาะสม: เหมาะสำหรับการจัดเก็บอาหารที่ต้องการคงความสดใหม่ เหมาะกับร้านอาหารหรือบุคคลที่ต้องการจัดเก็บอาหารในลักษณะที่ดูสวยงามและปลอดภัยในระยะสั้น
- บรรจุภัณฑ์ใส่อาหารพลาสติก HDPE (High-Density Polyethylene)
- คุณสมบัติ: HDPE มีความทนทานต่อการกระแทกและสารเคมี สามารถเก็บอาหารได้ในอุณหภูมิที่ไม่สูงมาก แต่ไม่แนะนำให้นำเข้าไมโครเวฟ
- การใช้งาน: เหมาะสำหรับการเก็บอาหารแห้งหรืออาหารที่ไม่ต้องการอุ่นร้อน เช่น ขนมปัง แซนวิช หรืออาหารที่ใช้ในการเดินทาง
- ความเหมาะสม: เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการกล่องข้าวที่มีความแข็งแรง ทนทาน และสามารถเก็บอาหารได้ในสภาพแวดล้อมหลากหลาย
- บรรจุภัณฑ์ใส่อาหารพลาสติก PS (Polystyrene)
- คุณสมบัติ: พลาสติก PS มีน้ำหนักเบาและราคาถูก แต่ไม่ทนความร้อนสูง มักใช้ในกล่องบรรจุอาหารที่ใช้ครั้งเดียว
- การใช้งาน: นิยมใช้ในการใส่อาหารสำเร็จรูปหรืออาหารที่ต้องการเก็บในระยะเวลาสั้นๆ เช่น อาหารจานด่วน อาหารขายตามร้านสะดวกซื้อ
- ความเหมาะสม: เหมาะสำหรับการใช้งานชั่วคราว เช่น งานเลี้ยง หรืองานที่ต้องใช้กล่องข้าวจำนวนมากในงบประมาณที่ประหยัด
ข้อดีของบรรจุภัณฑ์อาหารชนิดพลาสติก
- บรรจุภัณฑ์พลาสติกมีราคาที่ค่อนข้างถูก เมื่อเทียบกับบรรจุภัณฑ์กระดาษ
- ตัวพลาสติกมีคุณสมบัติเหนียว และน้ำหนักเบา
- บรรจุภัณฑ์พลาสติกไม่นำความร้อน และกระแสไฟฟ้า
- ตัวบรรจุภัณฑ์พลาสติกใส่อาหารสามารถป้องกันการรั่วซึมของอากาศ และน้ำได้ดี
- บรรจุภัณฑ์พลาสติกสามารถทนทานต่อความชื้น และไม่เป็นสนิม
- สามารถพิมพ์ลวดลาย และ Logo หรือแบรนด์ลงบนตัวกล่องได้
ข้อเสียของบรรจุภัณฑ์อาหารชนิดพลาสติก
- บรรจุภัณฑ์พลาสติกที่ถูกผลิตขึ้นโดยไม่ได้มาตรฐานพอ จะทำให้เกิดการปนเปื้อนของสารเคมี และส่งผลต่ออาหารที่ตัวกล่องรองรับได้
- ตัวบรรจุภัณฑ์พลาสติกใช้เวลาย่อยสลายยาวนานกว่า 300 ปี
- กล่องโฟมใส่อาหารเป็นปัญหาต่อสิ่งแวดล้อม และสัตว์ป่า เนื่องจากตัวกล่องโฟมไม่สามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ
- บรรจุภัณฑ์พลาสติกส่งผลให้เกิดมลภาวะทางขยะ และส่งผลร้ายต่อสิ่งแวดล้อม
- บรรจุภัณฑ์พลาสติกบางชนิดแตกหักได้ง่าย
3. บรรจุภัณฑ์อาหารใช้แล้วทิ้งชนิดกล่องกระดาษ
บรรจุภัณฑ์ใส่อาหารชนิดกระดาษเป็นบรรจุภัณฑ์ชนิดใหม่ที่นิยมใช้งานสูงในปัจจุบัน ทั้งในร้านค้า ร้านอาหารเล็กไปจนถึงร้านใหญ่ๆ โดยตัวบรรจุภัณฑ์นอกจากถูกนำไปใส่อาหารแล้วยังถูกนำไปเป็นบรรจุภัณฑ์ใส่สิ่งต่างๆอีกมาก
บรรจุภัณฑ์กระดาษใส่อาหารจะถูกผลิตขึ้นมาด้วยเยื่อกระดาษชนิดต่างๆ โดยจะมีคุณสมบัติแตกต่างกันออกไปตามเกรดของกระดาษที่นำมาเป็นวัสดุ พัฒนาและผลิตขึ้นมาเพื่อนำมาทดแทนบรรจุภัณฑ์ชนิดเก่าจำพวกกล่องโฟม และกล่องพลาสติก
เนื่องจากตัวกล่องกระดาษนอกจากปลอดภัยต่อผู้บริโภค ไม่มีสารเคมีปนเปื้อนในตัวบรรจุภัณฑ์แล้ว ยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และสามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติด้วย
ข้อดีของบรรจุภัณฑ์อาหารชนิดกระดาษ
- บรรจุภัณฑ์กระดาษเป็นบรรจุภัณฑ์รักษ์โลก ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และสัตว์ป่า
- ตัวบรรจุภัณฑ์ถูกผลิตขึ้นมาจากกระดาษทำให้สามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ
- สามารถเลือกพิมพ์ลวดลายต่างๆ หรือ Logo และแบรนด์ร้านของคุณลงบนตัวกล่องได้
- สร้างความแตกต่าง และเพิ่มภาพลักษณ์ให้กับธุรกิจ
- น้ำหนักเบา เหมาะสำหรับขนส่ง
- บรรจุภัณฑ์กระดาษสามารถต้านไขมัน และน้ำมันได้
- ออกแบบหรือเลือกรูปทรงของตัวกล่องกระดาษได้ตามต้องการ
- ตัวบรรจุภัณฑ์กระดาษสามารถนำไปรีไซเคิลใช้งานใหม่ได้ 100%
ข้อเสียของบรรจุภัณฑ์อาหารชนิดกระดาษ
- ตัวบรรจุภัณฑ์กระดาษป้องกันความชื้น หรือน้ำได้ไม่ดีนัก
- ไม่ทนทารต่อการเจาะ ทะลุเท่าบรรจุภัณฑ์พลาสติก
- ราคาจะสูงกว่าบรรจุภัณฑ์พลาสติก และกล่องโฟม