การออกแบบและผลิตบรรจุภัณฑ์ประเภท กล่องไปรณีย์ กล่องใส่เอกสาร หรือบรรจุภัณฑ์กระดาษรูปแบบต่างๆ วัสดุที่นิยมนำมาใช้ในการผลิตมากที่สุดได้แก่ กระดาษคราฟท์ สำหรับผู้ประกอบการมือใหม่ที่เริ่มสร้างแบรนด์สินค้าเป็นของตัวเอง และกำลังศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการออกแบบและผลิตบรรจุภัณฑ์ Hongthaipackaging มีข้อมูลเกี่ยวกับกระดาษคราฟท์ ประเภทและความสำคัญของกระดาษคราฟท์มาแนะนำเป็นความรู้
หัวข้อย่อยมีอะไรบ้าง ?
กระดาษคราฟท์ ประเภท และความสำคัญของกระดาษคราฟท์ ต่อการผลิตบรรจุภัณฑ์
กระบวนการคราฟท์ คือการใช้เทคโนโลยีในการแปลงสภาพจากเนื้อไม้เป็นเยื่อกระดาษไม้ โดยใช้สารเคมีและความร้อนในการแยกเยื่อและขจัดลิกนิน ดังนั้นกระดาษคราฟท์ (Kraft Paper) จึงเป็นกระดาษที่ผลิตจากเยื่อเคมีที่ผ่านกระบวนการคราฟท์มาแล้ว โดยทั่วไปกระดาษคราฟท์จะมีสีน้ำตาลตามสีของเนื้อไม้ที่นำมาผลิตและเยื่อกระดาษที่ได้จะมีความแข็งแรงหรือเหนียวกว่ากระดาษชนิดอื่น
กระดาษคราฟท์เป็นวัสดุทั่วไปที่เป็นอีกหนึ่งวัสดุที่นำมาใช้ในการออกแบบบรรจุภัณฑ์ กระดาษคราฟท์เป็นกระดาษบรรจุภัณฑ์ที่เหนียวและมีคุณสมบัติกันน้ำได้ ส่วนใหญ่เป็นสีเหลือง และกระดาษคราฟท์นำไปทำเป็นบรรจุภัณฑ์ได้หลากหลายเช่น ถุงกระดาษ ซองจดหมาย สมุดงาน ชุดบันทึก แฟ้ม และกระดาษทราย และมีน้ำหนักพื้นฐานของกระดาษคราฟท์คือ 80 g/m2 ถึง 120 g/m2
กระดาษคราฟท์มีความแตกต่างจากวัสดุอื่นอย่างความต่างระหว่างกระดาษม้วนและกระดาษแผ่นเรียบ และกระดาษแบบแสงด้านเดียว แสงสองด้าน และกระดาษแถบ โดยกระดาษคราฟท์ในเรื่องของด้านคุณภาพหลักๆคือมีความยืดหยุ่นและแข็งแรง ต้านทานการแตกร้าวสูง สามารถทนต่อแรงดึงและแรงกดขนาดใหญ่โดยไม่แตกร้าว กระดาษคราฟท์มักจะคงสีจริงไว้ เหมาะสำหรับ การนำไปผลิตเป็นถุงและกล่องบรรจุภัณฑ์
กระดาษคราฟท์เป็นคำทั่วไปที่ใช้สำหรับเรียกกระดาษที่มีกระบวนการผลิตรูปแบบคราฟท์ และไม่มีมาตรฐานที่แน่นอนตายตัว โดยทั่วไปจะมีการจำแนกตามลักษณะและการใช้งาน ตามสี โดยกระดาษคราฟท์มีสีจำแนกได้ตามสีเหล่านี้ กระดาษคราฟท์สีหลัก, กระดาษคราฟท์สีแดง, กระดาษคราฟท์สีขาว ฯลฯ
การใช้งานที่แตกต่างกันสามารถแบ่งออกเป็น กระดาษคราฟท์บรรจุภัณฑ์, กระดาษคราฟท์กันน้ำ, กระดาษที่ผ่านกระบวนการคราฟท์, กระดาษคราฟท์ที่เป็นฉนวน, สติกเกอร์คราฟท์ กระดาษคราฟท์ที่แบ่งตามวัสดุที่แตกต่างกัน มีประเภทกระดาษคราฟท์รีไซเคิล, กระดาษคราฟท์แกน, กระดาษคราฟท์, กระดาษคราฟท์หยาบ ฯลฯ
มีหลายสาเหตุที่จะส่งผลต่อสีของกระดาษ โดยพื้นฐานของกระดาษคราฟท์นั้นมีความแตกต่างของสีเหล่านี้ที่หลีกเลี่ยงได้ยากและไม่สามารถควบคุมได้โดยทั่วไป กระดาษคราฟท์ชุดเดียวกันสามารถให้สีเดียวกันได้ 98%
คุณลักษณะของกระดาษคราฟท์
กระดาษคราฟท์ จะมีสีน้ำตาลตามเนื้อไม้ที่นำมาผลิตเป็นเยื่อกระดาษบางชนิดก็มีสีขาว เพราะใช้เยื่อฟอกขาวหรืออาจมีสีอื่นๆขึ้นอยู่กับผู้ผลิตและความต้องการของตลาด ส่วนใหญ่จะมีเนื้อหยาบมีความเหนียว และแข็งแรงกว่ากระดาษธรรมดา สามารถป้องกันแรงอัดและแรงกระแทกจากภายนอกได้เป็นอย่างดี โดยคุณลักษณะที่โดดเด่นของกระดาษคราฟท์ คือสามารถต้านทานการเปียกน้ำ ต้านทานการเปรอะน้ำมัน ต้านทานการเสียดสี เป็นกระดาษที่มีความหนามีน้ำหนักและมีความเรียบเสม่ำเสมอ เป็นวัสดุที่เหมาะสำหรับงานพิมพ์ เพราะติดกาวได้ดี นอกจากนั้นยังเหมาะสำหรับนำมาแปรรูปเป็นบรรจุภัณฑ์ประเภทกล่องกระดาษหรือภาชนะสำหรับหีบห่อที่สามารถนำกลับมาหมุนเวียนใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตกระดาษได้อีก
ประเภทของกระดาษคราฟท์
กระดาษคราฟท์ ที่นิยมนำมาทำเป็นแผ่นกระดาษลูกฟูก หรือผลิตเป็นบรรจุภัณฑ์รูปแบบต่างๆ จะมีหลายประเภทและมีหลายสีทั้งยังมีคุณภาพแตกต่างกัน ดังนั้นการนำไปใช้งานก็จะต้องพิจารณาเกรดกระดาษให้เหมาะสมกับการนำไปใช้ ดังนี้
- KS – กระดาษคราฟท์สีขาว
กระดาษคราฟประเภทนี้เหมาะสำหรับบรรจุภัณฑ์ที่ต้องการความแข็งแรง สามารถปกป้องสินค้าได้ดีนิยมใช้สำหรับ กล่องเครื่องใช้ไฟฟ้า สินค้าเพื่อการส่งออกและกล่องสินค้าอุปโภคบริโภคที่ต้องการบ่งบอกถึงความมีระดับของผลิตภัณฑ์นั้นๆ บทบาทของกระดาษคราฟนิยมใช้ทำผิวกล่อง ที่เน้นงานพิมพ์เป็นหลักเพราะมีความเรียบสะอาดเน้นความสวยงามและช่วยให้การพิมพ์มีสีสันชัดเจน เช่น กล่องเครื่องสำอาง กล่องน้ำหอม กล่องขนมขบเคี้ยว เป็นต้น สำหรับน้ำหนักมาตรฐานของกระดาษ 170g. กรัม/ตารางเมตร
- KA – กระดาษคราฟท์สีเหลืองทอง
กระดาษคราฟท์สีเหลืองทอง เป็นกระดาษที่นิยมใช้ทำผิวกล่อง มีความแข็งแรงทนทานเป็นพิเศษ ผลิตเป็นบรรจุภัณฑ์สามารถรองรับน้ำหนักของของสินค้าได้ดี ทนต่อความชื้นสูง คุณสมบัติของกระดาษยังพิมพ์งานได้สวยงาม เหมาะสำหรับสินค้าอะไหล่ยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่ กล่องเฟอร์นิเจอร์ ที่ต้องเน้นและมีความมั่นใจในเรื่องความแข็งแรงทุกรูปแบบ ทั้งการกดทับจากการเรียงซ้อนและ ป้องกันการกระแทก น้ำหนักมาตรฐานของกระดาษ : 125, 150, 185, 230 กรัม/ตารางเมตร
- KI – กระดาษคราฟท์สีน้ำตาลอ่อน
กระดาษคราฟท์สีน้ำตาลอ่อน เป็นกระดาษสำหรับทำผิวกล่อง เหมาะกับกล่องสินค้าขนาดเล็กที่บรรจุภัณฑ์ไม่ต้องมีความแข็งแรงมากนัก ใช้กับงานพิมพ์ภาพหรือพิมพ์ตัวหนังสือได้อย่างสวยงามเช่น กล่องอาหารสำเร็จรูป กล่องเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีการพิมพ์เป็นภาพสี กล่องเครื่องสำอางขนาดเล็ก น้ำหนักมาตรฐานของกระดาษ : 125, 150, 185 กรัม/ตารางเมตร
- KP – กระดาษคราฟท์สีน้ำตาล
กระดาษคราฟท์สีน้ำตาล เป็นกระดาษสำหรับทำผิวกล่องบรรจุภัณฑ์ที่โทนสีใกล้เคียงกับกระดาษต่างประเทศ ทำให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากลนิยมผลิตเป็นกล่องบรรจุภัณฑ์สำหรับสินค้าส่งออกทุกชนิดหรือกล่องไปรษณีย์ น้ำหนักมาตรฐานของกระดาษ : 175, 275 กรัม/ตารางเมตร
- KT – กระดาษคราฟท์สีน้ำตาล
กระดาษคราฟท์สีน้ำตาล เป็นกระดาษสำหรับทำผิวกล่องบรรจุภัณฑ์ ผลิตจากเยื่อ Recycled 100% เมื่อนำมาออกแบบผลิตเป็นบรรจุภัณฑ์ นอกจากสวยงามแล้วยังแข็งแรงคงทน ยังสามารถรองรับการกดทับจากวางเรียงซ้อนได้ เหมาะสำหรับสินค้าส่งออกที่มีการระบุไว้อย่างชัดเจนว่าให้ใช้กล่องที่ทำจากเยื่อ Recycled ทั้งหมดเพื่อส่งเสริมด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
- CA – กระดาษคราฟท์สำหรับทำลอนลูกฟูก
กระดาษคราฟท์สำหรับทำลอนลูกฟูก มีลักษณะที่โดดเด่นสามารถใช้ทำลอนลูกฟูกได้ทุกขนาด คุณสมบัติมีความแข็งแรง ป้องกันการกดทับและแรงกระแทกได้ดี คุณภาพสูง ความแข็งแรงสัมพันธ์กับน้ำหนักมาตรฐานของกระดาษความแข็งแรงสัมพันธ์กับน้ำหนักมาตรา ฐานของกระดาษ สำหรับน้ำหนักมาตรฐานของกระดาษ : 105, 125 กรัม/ตารางเมตร
ข้อดีและความโดดเด่นของงานคราฟท์
- มีความคุ้มค่าและมีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
- ช่วยประหยัดใช้ต้นทุนต่ำ
ต้นทุนโดยรวมของบรรจุภัณฑ์ด้วยกระดาษคราฟท์นั้นค่อนข้างต่ำ ในความเป็นจริงแล้วจะช่วยให้ผู้ประกอบการร้านค้าสามารถควบคุมต้นทุนได้ดีขึ้น - มีสไตลที่ดูเรียบง่าย
รูปแบบบรรจุภัณฑ์ของกระดาษคราฟท์นั้นเรียบง่ายและมีบรรยากาศแบบเรโทร วินเทจ ที่เป็นกระแสอยู่ในความที่ได้รับความนิยมของเหล่าผู้คน เหตุผลที่แบรนด์ดังหลายแบรนด์เลือกใช้กระดาษคราฟท์สำหรับบรรจุภัณฑ์ก็เพราะรูปแบบย้อนยุคดูดีที่มีความเรียบง่าย - สามารถสัมผัสอาหารได้โดยตรงเป็นแบบ Food Grade
กระดาษคราฟท์บางชนิดมีใบรับรอง Food-Grade และสามารถสัมผัสกับอาหารได้โดยตรงตัวอย่างเช่น ถ้วยกระดาษ ชามกระดาษ กล่องอาหารกลางวัน เป็นต้น McDonald’s และ Starbucks ใช้กระดาษคราฟท์สำหรับบรรจุภัณฑ์ - ข้อดีของกระดาษคราฟท์ ปลอดสารพิษ, ไม่มีกลิ่น, ไม่เป็นมลพิษ, มีความแข็งแรงสูง, ทนต่อการสึกหรอ, ฯลฯ. ข้อดีเหล่านี้ยังทำให้กระดาษคราฟท์ถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลายและสามารถใช้ได้กับทุกเพศทุกวัย
ข้อจำกัดของการใช้งานคราฟท์
กระดาษคราฟท์ใช้ในการเป็นส่วนผสมทางสารเคมี ที่ผลิตขึ้นในเครื่องจักร ฯลฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่งใช้กันอย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์อาหาร
การใช้กระดาษคราฟท์
กระดาษคราฟท์มีใช้กันอย่างแพร่หลายในวัสดุบรรจุภัณฑ์ต่างๆ เช่น ถุงกระดาษ, กระดาษคราฟท์สำหรับกระเป๋าถือ,กล่องสี, กล่องของขวัญ,กล่องใส่ของชำร่วย, กระดาษคราฟท์สำหรับพิมพ์, กระดาษคราฟท์สำหรับซองจดหมาย เป็นต้น
บรรจุภัณฑ์อาหารควรเป็นไปตามหลักของความปลอดภัย มีความเรียบง่าย และพกพาสะดวก ความต้านทานแรงดึงของกระดาษคราฟท์ทำให้เหมาะสำหรับความต้องการด้านบรรจุภัณฑ์ เพื่อป้องกันไม่ให้ถุงอาหารที่เป็นแบบ Takeaway หรือซื้อกลับบ้าน วัสดุบรรจุภัณฑ์ต้องการแรงดึงมีความยืดหยุ่นที่ดี ใน
ส่วนของบรรจุภัณฑ์เครื่องดื่มต้องการให้วัสดุในการผลิตมีความสามารถในการต้านทานความชื้นและการเสียรูปทรง สำหรับบรรจุภัณฑ์อาหารแช่แข็ง การใช้วัสดุที่มีความแข็งแรงสูงเป็นบรรจุภัณฑ์ก็ถือเป็นกุญแจสำคัญเช่นกัน วัสดุนี้ต้องสามารถทนต่อผลกระทบจากการแช่แข็งและการละลายได้ ถือว่าเป็นการป้องกันอาหารไม่ให้เกิดความเสียหายได้จากการทำละลาย จากมุมมองเหล่านี้เกี่ยวกับบรรจุภัณฑ์อาหารวัสดุอย่างกระดาษคราฟท์แบบ Food Grade เหมาะสมกว่ากระดาษคราฟท์แบบ SBS
กล่องบรรจุภัณฑ์กระดาษคราฟท์
ผู้คนจำนวนมากให้ความสนใจกับแนวคิดของ “สีเขียว มีความเป็นธรรมชาติ” มากขึ้น กระดาษคราฟท์คุณภาพสูงและสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ หลายบริษัทเริ่มใช้บริษัทบรรจุภัณฑ์กระดาษคราฟท์เพื่อสะท้อนถึงธรรมชาติของธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
กล่องบรรจุภัณฑ์กระดาษคราฟท์ทั่วไป
- กล่องรักษ์โลก ประกอบด้วยฝาบนและล่างกล่องบรรจุภัณฑ์ กล่องกระดาษคราฟท์ เนื่องจากการป้องกันสิ่งของภายในกล่องของกล่องที่ทำมาจากกระดาษคราฟท์ สามารถช่วยปรับปรุงความสามารถในการรับน้ำหนักของกล่องกระดาษคราฟท์ เพื่อปกป้องผลิตภัณฑ์ได้ดียิ่งขึ้น
- กล่องลิ้นชัก ประกอบด้วยสองส่วน ซองจดหมาย + กล่องรูปร่างเหมือนลิ้นชัก
โดยทั่วไปแล้วกล่องภายในจะปกป้องสินค้าและโครงสร้างจะต้องแข็งแรงกว่ากล่องด้านนอกเป็นจุดสำคัญที่ช่วยเพิ่มมูลค่าของสินค้าภายในได้ด้วย กล่องต้องดูดี ซึ่งเกิดจากการพิมพ์และพื้นผิวที่ดี - กล่องรูปหนังสือ กล่องรูปหนังสือดูเหมือนหนังสือการปิดผนึกรูปเล่มมักใช้กระดาษคราฟท์ติดกาวเข้าด้วยกัน แต่กล่องบรรจุภัณฑ์ระดับไฮเอนด์มีการใช้แม่เหล็ก สิ่งนี้สามารถเพิ่มความแข็งแรงของบรรจุภัณฑ์ แต่ยังเพิ่มจำนวนกล่องที่นำกลับมาใช้ใหม่ได้อีกด้วย
กระดาษคราฟท์มีความสำคัญต่อการผลิตบรรจุภัณฑ์ เพราะใช้เป็นวัสดุหลักโดยทั่วไปจะมีอยู่ 2 ประเภทได้แก่ กระดาษคราฟท์สำหรับทำผิวกล่องและกระดาษคราฟท์สำหรับทำลอนลูกฟูก ขั้นตอนสำคัญในการผลิตบรรจุภัณฑ์ก็คือการนำกระดาษคราฟท์ไปผ่านกระบวนการผลิตเพื่อทำเป็นแผ่นลูกฟูกเสียก่อน จึงจะนำไปใช้ผลิตกล่องลูกฟูกแบบต่างๆได้ ดังนั้นก่อนที่ผู้ประกอบการจะทำการออกแบบและสั่งผลิตบรรจุภัณฑ์แบบต่างๆ จากโรงงานรับผลิต จะต้องทำความเข้าใจและมีความรู้เกี่ยวกับคุณสมบัติของกระดาษดราฟท์อย่างเข้าใจเสียก่อน ก็จะได้บรรจุภัณฑ์ที่ตอบโจทย์การใช้งานมากที่สุด