กล่องลูกฟูกคืออะไร ทำไมต้องได้รับมาตรฐาน มอก.

กล่องลูกฟูกมาตรฐาน มอก. จากหงส์ไทยแพคเกจจิ้ง ถูกผลิตจากกระดาษลูกฟูกคุณภาพสูง แข็งแรง ทนทาน รองรับน้ำหนักได้ตั้งแต่ 5-30 กิโลกรัม

เหมาะสำหรับธุรกิจที่ต้องการความปลอดภัยในขนส่งและภาพลักษณ์ที่ดูดีในการจัดส่งสินค้าไม่ว่าจะเป็น กล่องพัสดุ, กล่องไดคัท, หรือ กล่องบรรจุภัณฑ์อาหาร

กล่องลูกฟูกคืออะไร ?

กล่องลูกฟูก คือ บรรจุภัณฑ์ที่ทำมาจาก กระดาษลูกฟูก (Corrugated Fiberboard) ซึ่งเป็นวัสดุที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายในการผลิตกล่องเพื่อการขนส่งและบรรจุสินค้าต่างๆ โดยจะมีลักษณะและคุณสมบัติเด่นๆ ดังนี้

ลักษณะสำคัญของกระดาษลูกฟูก

1. โครงสร้างตัวกล่อง : ประกอบด้วยกระดาษอย่างน้อย 3 ชั้นด้วยกัน ได้แก่
   • กระดาษผิวกล่องด้านนอก (Outer Liner): แผ่นเรียบด้านนอกสุด มักใช้กระดาษคราฟท์ (Kraft Paper) ที่มีความแข็งแรงทนทาน
   • ลอนลูกฟูก (Fluting Medium): กระดาษที่ถูกดัดเป็นคลื่นหรือลอน อยู่ตรงกลาง ทำหน้าที่สำคัญในการรับแรงกระแทก เพิ่มความแข็งแรง และเป็นโครงสร้างหลัก
   • กระดาษผิวกล่องด้านใน (Inner Liner): แผ่นเรียบด้านในสุด ประกบติดกับลอนลูกฟูก
     
2. ประเภทของลอนกระดาษ : ขนาดของลอนลูกฟูก มีผลต่อคุณสมบัติของกล่อง เช่น การรับน้ำหนัก การกันกระแทก และความสามารถในการพิมพ์ ลอนที่พบบ่อย ได้แก่ ลอน A, B, C, E, F โดยลอนใหญ่จะรับแรงกดและกันกระแทกได้ดี ส่วนลอนเล็กจะเหมาะกับงานพิมพ์และพับขึ้นรูปได้ง่ายกว่า
3. จำนวนชั้น : กล่องกระดาษลูกฟูกอาจมีจำนวนชั้นที่แตกต่างกันออกไป ตามการใช้งาน เช่น 
   • Single Wall (3 ชั้น) : ผิวเรียบ + ลอน + ผิวเรียบ (ใช้งานทั่วไป)
   • Double Wall (5 ชั้น) : ผิวเรียบ + ลอน + ผิวเรียบ + ลอน + ผิวเรียบ (แข็งแรงขึ้น รับน้ำหนักได้มากขึ้น)
   • Triple Wall (7 ชั้น) : ผิวเรียบ + ลอน + ผิวเรียบ + ลอน + ผิวเรียบ + ลอน + ผิวเรียบ (แข็งแรงมาก สำหรับสินค้าน้ำหนักมาก หรือต้องการการปกป้องสูง)

สรุปง่ายๆ กล่องลูกฟูก คือ กระดาษลูกฟูกที่ผลิตขึ้นมาจากวัสดุกระดาษแผ่นเรียบนำมาประกบติดกับกระดาษที่เป็นลอนคลื่น ทำให้ได้โครงสร้างคล้าย “แซนวิช” ที่มีความแข็งแรงแต่น้ำหนักเบา

ทำไมกล่องลูกฟูกถึงนิยมใช้ ?

กล่องลูกฟูกเป็นบรรจุภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายทั่วโลก โดยเฉพาะในการขนส่งและจัดเก็บสินค้า ด้วยเหตุผลหลายประการ

1. ความแข็งแรงและทนทานสูง : โครงสร้างลอนลูกฟูกช่วยให้กล่องสามารถรับน้ำหนักได้ดี ทนต่อแรงกดทับ แรงกระแทก และการสั่นสะเทือนได้ดีกว่ากล่องกระดาษแข็งธรรมดา ช่วยปกป้องสินค้าภายในได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2. น้ำหนักเบา : เมื่อเทียบกับความแข็งแรงที่ได้รับ กล่องลูกฟูกถือว่ามีน้ำหนักเบา ทำให้สะดวกในการขนย้าย และช่วยลดต้นทุนค่าขนส่ง (ซึ่งมักคิดตามน้ำหนักและขนาด)
3. ปกป้องสินค้าได้ดี : ลอนลูกฟูกทำหน้าที่เหมือนเบาะกันกระแทก ช่วยลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับสินค้าระหว่างการขนส่ง
4. คุ้มค่า ราคาไม่แพง : เป็นวัสดุบรรจุภัณฑ์ที่มีต้นทุนการผลิตไม่สูงนัก โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับบรรจุภัณฑ์ประเภทอื่นที่มีความแข็งแรงใกล้เคียงกัน
5. ปรับเปลี่ยนได้หลากหลาย : สามารถผลิตได้หลายขนาด หลายรูปทรง และหลายระดับความแข็งแรง (เช่น กล่อง 3 ชั้น, 5 ชั้น) ตามความต้องการใช้งาน และยังสามารถพิมพ์ลวดลาย โลโก้ หรือข้อมูลต่างๆ ลงบนกล่องได้ง่าย เพื่อส่งเสริมการขายและการตลาด
6. เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม : ส่วนใหญ่ผลิตจากกระดาษรีไซเคิล และตัวกล่องเองก็สามารถนำกลับไปรีไซเคิลได้เกือบ 100% ทั้งยังย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ (หากไม่เคลือบสารกันน้ำมากเกินไป) ตอบโจทย์กระแสรักษ์โลก
7. จัดเก็บง่าย : กล่องลูกฟูกส่วนใหญ่ออกแบบมาให้พับแบนได้เมื่อยังไม่ใช้งาน ช่วยประหยัดพื้นที่ในการจัดเก็บ

มาตรฐาน มอก. สำคัญอย่างไรกับกล่องลูกฟูก ?

มาตรฐาน มอก. คือมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม เป็นการรับรองคุณภาพ และความน่าเชื่อถือให้กับผลิตภัณฑ์ต่างๆ เพราะฉะนั้นจึงมีความแสำคัญสำหรับกล่องลูกฟูกนั้นที่เป็นบรรจุภัณฑ์ยอดนิยมในปัจจุบันนั่นเอง

โดยการที่กล่องได้รับมาตรฐาน มอก. จะแสดงให้เห็นถึงข้อมูลดังนี้

• รับรองคุณภาพ (Quality Assurance)
  • มอก. กำหนดคุณสมบัติขั้นต่ำที่จำเป็นสำหรับกระดาษลูกฟูก (ซึ่งเป็นวัสดุหลักในการทำกล่อง) เช่น ความต้านทานแรงดันทะลุ (Bursting Strength – BST), ความต้านทานแรงกดในแนวตั้ง (Edge Crush Test – ECT), ความต้านทานแรงกดวงแหวน (Ring Crush Test – RCT สำหรับกระดาษ), การดูดซึมน้ำ (Water Absorption – Cobb Test) เป็นต้น
  • การที่กล่องลูกฟูกผลิตตามมาตรฐาน มอก. (เช่น มอก. 330 สำหรับแผ่นกระดาษลูกฟูกลอนชั้นเดียว, มอก. 331 สำหรับแผ่นกระดาษลูกฟูกลอนสองชั้น) เป็นการการันตีว่ากล่องนั้นๆ มีคุณภาพพื้นฐานตามที่กำหนด สามารถทนทานต่อการใช้งานตามวัตถุประสงค์ได้
• สร้างความน่าเชื่อถือและความมั่นใจ (Reliability and Confidence)
  • สำหรับผู้ผลิตสินค้าที่ต้องใช้กล่องลูกฟูกในการบรรจุและขนส่ง การเลือกใช้กล่องที่ได้มาตรฐาน มอก. ช่วยให้มั่นใจได้ว่ากล่องจะแข็งแรงพอที่จะปกป้องสินค้าภายใน ไม่ยุบตัวง่าย ลดความเสี่ยงที่สินค้าจะเสียหายระหว่างการขนส่งหรือจัดเก็บ
  • สำหรับผู้ผลิตกล่องเอง การได้รับ มอก. เป็นการแสดงถึงศักยภาพและมาตรฐานการผลิต สร้างความได้เปรียบในการแข่งขันได้
• เป็นมาตรฐานอ้างอิง (Reference Standard)
  • มอก. ทำหน้าที่เป็นเกณฑ์กลางในการสื่อสารระหว่างผู้ผลิตกล่องและผู้ใช้งาน ทำให้การระบุสเปกกล่องหรือความต้องการของลูกค้าได้ผ่านเกณฑ์การวัด มอก. (เช่น “ต้องการกล่องตาม มอก. 330 เกรด KA125/CA105”)
  • ช่วยในการเปรียบเทียบคุณภาพกล่องจากผู้ผลิตแต่ละรายได้
• ปกป้องผู้บริโภค/ผู้ใช้งาน (User Protection)
  • ทำให้ผู้ซื้อกล่องลูกฟูก (ไม่ว่าจะเป็นโรงงานหรือผู้ใช้ทั่วไป) ได้รับผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพเหมาะสมกับราคา และมั่นใจได้ในประสิทธิภาพการปกป้องกันสินค้าของคุณอย่างแน่นอน

สรุปง่ายๆ คือ การเลือกใช้กล่องลูกฟูกที่มีเครื่องหมาย มอก. ก็เหมือนมีหลักประกันว่ากล่องใบนั้นมีคุณภาพและความแข็งแรงตามมาตรฐาน ซึ่งสำคัญอย่างยิ่งต่อการปกป้องสินค้าให้ถึงมือผู้รับอย่างปลอดภัยครับ

จุดเด่นของกล่องลูกฟูก HTP

นอกเหนือจากการผลิตตามมาตรฐาน มอก. แล้ว กล่องลูกฟูกจากหงส์ไทยแพคเกจจิ้ง (HTP) ยังมีจุดเด่นเฉพาะตัวที่สำคัญ ดังนี้

• ผลิตตามมาตรฐาน มอก. 550-2555 ผ่านการทดสอบความแข็งแรง ความทนต่อแรงกระแทก และการทิ่มทะลุ พร้อมรับประกันคุณภาพโครงสร้างตามเกณฑ์ที่กำหนด
• วัสดุคุณภาพระดับอุตสาหกรรม กระดาษลูกฟูกตาม มอก. 321-2560 (กระดาษทำลูกฟูก) และกระดาษผิวกล่องตาม มอก. 170-2559 (กระดาษคราฟท์เหนียว)
• รองรับการใช้งานหลากหลาย ทั้งแบบ กล่องฝาชน (RSC), กล่องฝาเกย, กล่องโชว์สินค้า, กล่องพัสดุ Shopee – Lazada, และกล่องขนาดสั่งผลิตพิเศษ
• มีบริการพิมพ์โลโก้แบรนด์ + เคลือบกันชื้น เพิ่มมูลค่าแบรนด์ในราคาประหยัด พร้อมจัดส่งทั่วประเทศ
• เหมาะสำหรับธุรกิจที่ต้องการกล่องขนส่งปลอดภัย เช่น สินค้าอุตสาหกรรม, อาหาร, เครื่องใช้ไฟฟ้า, สินค้า E-commerce ฯลฯ