บรรจุภัณฑ์อาหารใช้แล้วทิ้ง (Food Disposable Packaging) คืออะไร มีประโยชน์ และข้อเสียอย่างไรบ้าง

บรรจุภัณฑ์อาหารใช้แล้วทิ้ง (Food Disposable Packaging) คืออะไร

เนื่องจากในทุกวันนี้คนหันมาสนใจใช้บริการขนส่งเดลิเวอรี่อาหาร หรือสั่งอาหารผ่านแอปพลิเคชั่นต่างๆมากขึ้น ทำให้ความต้องการในด้านตัวกล่องบรรจุภัณฑ์อาหารเป็นที่นิยมขึ้นด้วย ซึ่งในแต่ละตัวบรรจุภัณฑ์ใส่อาหารก็ถูกพัฒนามากขึ้นทำให้มีตัวเลือกหลากหลายชนิดให้เลือกใช้งานกันตามความเหมาะสม และในวันนี้ผมจะขอมาพูดถึงหนึ่งในบรรจุภัณฑ์อาหารชนิดใช้แล้วทิ้งกันว่าจะมีประโยชน์ และข้อดี-ข้อเสียอะไรบ้าง!!

บรรจุภัณฑ์อาหารใช้แล้วทิ้ง (Food Disposable Packaging) คืออะไร

บรรจุภัณฑ์อาหารใช้แล้วทิ้ง (Food Disposable Packaging) คือ บรรจุภัณฑ์ที่ใส่อาหารชนิดที่ใช้งานได้ครั้งเดียวแล้วทิ้งทันทีหลังใช้งานเสร็จ ไม่สามารถนำไปล้างแล้วกลับมาใช้งานได้ใหม่ เป็นบรรจุภัณฑ์ใส่อาหารราคาถูกเมื่อเทียบกับบรรจุภัณฑ์ชนิดอื่นๆที่สามารถใช้ซ้ำได้ ทำให้ร้านค้า ร้านอาหารมักนิยมใช้กัน นอกจากนี้ตัวบรรจุภัณฑ์ชนิดนี้สามารถผลิตขึ้นมาได้จากหลากหลายวัสดุตั้งแต่ พลาสติก, กระดาษ และกล่องโฟมเป็นต้น

บรรจุภัณฑ์อาหารใช้แล้วทิ้งมีอะไรบ้าง

บรรจุภัณฑ์ชนิดใช้แล้วทิ้งในปัจจุบันมีให้เลือกหลายชนิด ทั้งแบบเก่าจำพวกทำมาจากพลาสติก, โฟม และในปัจจุบันที่ทำมาจากเยื่อกระดาษ ซึ่งแต่ละชนิดจะมีความสามารถแตกต่างกันออกไปโดยสามารถจำแนกได้เป็นสามชนิดดังนี้

1. บรรจุภัณฑ์อาหารใช้แล้วทิ้งชนิดกล่องโฟม

บรรจุภัณฑอาหารใช้แล้วทิ้งชนิดกล่องโฟม
บรรจุภัณฑ์อาหารใช้แล้วทิ้งชนิดกล่องโฟม

เป็นบรรจุภัณฑ์อาหารชนิดที่มีราคาถูกที่สุดทำให้ร้านค้า ร้านอาหารขนาดเล็กนิยมใช้งานกัน โดยตัววัสดุผลิตจากเม็ดพลาสติกชนิดโพลิสไตรีน (Polystyrene, PS) ที่นำมาผ่านกระกวนการขยายตัวออกโดยใช้สาร (Blowing Agent) และสารเร่ง (Additive) ทำให้ตัวโฟมเกิดการฟูและพองตัว จากการใช้ความร้อนสูง แล้วจึงค่อยนำมาผลิตขึ้นรูปโดยแม่พิมพ์เป็นบรรจุภัณฑ์โฟมชนิดต่างๆ เช่น กล่องโฟมใส่อาหาร กล่องโฟมเก็บความเย็นเป็นต้น

ข้อดีของบรรจุภัณฑ์อาหารชนิดโฟม

  • บรรจุภัณฑ์อาหารชนิดโฟมเป็นบรรจุภัณฑ์ราคาถูกที่สุดในหมู่บรรจุภัณฑ์อาหารด้วยกัน
  • ตัวกล่องโฟมสามารถรองรับอาหารได้เหมื่อนบรรจุภัณฑ์ชนิดอื่นๆ
  • มีความแข็งแรงพอสมควร สามารถวางซ้อนเรียงกันได้
  • มีนํ้าหนักเบา ลอยนํ้าได้ และสามารถขึ้นเป็นรูปต่างๆ ได้
  • มีขนาดและรูปทรงที่หลากหลาย สามารถเลือกใช้งานได้ตามความต้องการ

ข้อเสียของบรรจุภัณฑ์อาหารชนิดโฟม

  • เมื่อกล่องโฟมโดนความร้อนสูงจากอาหารที่ทำมาสดใหม่นั้นจะก่อให้เกิดสาร 2 ชนิดคือ สไตรีน (Styrene) และเบนซีน (Benzene) ซึ่งมีผลข้างเคียงต่อสุขภาพดังนี้
    • สารเบนซีน (Benzene) เมื่อร่างกายได้รับสารชนิดนี้เข้าสู่ร่างกายในช่วงแรกจะเกิดอาการซึม วิงเวียน คลื่นไส้ ใจสั่น และหมดสติ และยังเป็นสารก่อมะเร็งอีกด้วย
    • สารสไตรีน (Styrene) เมื่อได้รับเข้าสู่ร่างกาย จะทำลายฮอร์โมนในร่างกาย มีผลต่อระบบประสาทเม็ดเลือดแดง ตับ และไต
  • กล่องโฟมใส่อาหารเป็นปัญหาต่อสิ่งแวดล้อม และสัตว์ป่า เนื่องจากตัวกล่องโฟมไม่สามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ
  • ขั้นตอนการผลิตตัวบรรจุภัณฑ์กล่องโฟมจะปล่อยของเสียออกมาทั้งทางด้านน้ำ และอากาศ พร้อมทั้งปล่อยสาร CFC ออกมาทำลายชั้นบรรยากาศอีกด้วย
  • กล่องโฟมก่อให้เกิดมลภาวะทางขยะ ที่มาจากการเลือกทิ้งกล่องไม่เป็นที่เป็นทาง
  • ขั้นตอนการทำลายบรรจุภัณฑ์กล่องโฟมส่งผลสิ่งแวดล้อม และเป็นภัยต่อผู้สูดดมเข้าไปทั้งมีการไอ เจ็บคอ หายใจลำบาก รวมถึงสารสไตรีนที่ออกมาจากตัวกล่องในกระบวนการทำลายก็จะทำให้เกิดอาการผิดปกติ ระคายเคืองได้ด้วย

2. บรรจุภัณฑ์อาหารใช้แล้วทิ้งชนิดกล่องพลาสติก

บรรจุภัณฑ์อาหารใช้แล้วทิ้งชนิดกล่องพลาสติก
บรรจุภัณฑ์อาหารใช้แล้วทิ้งชนิดกล่องพลาสติก

บรรจุภัณฑ์ใส่อาหารชนิดกล่องพลาสติกก็เป็นบรรจุภัณฑ์ที่มีราคาตั้งแต่ถูกไปจนสูง ขึ้นอยู่ที่ชนิดของพลาสติกในการผลิต รวมถึงคุณสมบัติต่างๆด้วย โดยสามารถแบ่งแยกบรรจุภัณฑ์พลาสติกเป็น 4 ชนิด ได้แก่

  1. บรรจุภัณฑ์ใส่อาหารพลาสติก PP (Polypropylene)
    • คุณสมบัติ: พลาสติก PP มีคุณสมบัติทนทานต่อความร้อนสูง สามารถนำเข้าไมโครเวฟได้โดยไม่เกิดสารปนเปื้อน เป็นมิตรต่อสุขภาพ
    • การใช้งาน: เหมาะสำหรับการเก็บอาหารทั้งร้อนและเย็น เหมาะกับการใช้ซ้ำหลายครั้ง เช่น การเตรียมอาหารกลางวันเพื่อพกพาไปทำงาน หรืออุ่นอาหารจากตู้เย็น
    • ความเหมาะสม: เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความสะดวกในการเก็บและอุ่นอาหารในภาชนะเดียวกัน ช่วยประหยัดเวลาและลดการใช้บรรจุภัณฑ์หลายชิ้น
  2. บรรจุภัณฑ์ใส่อาหารพลาสติก PET (Polyethylene Terephthalate)
    • คุณสมบัติ: พลาสติก PET โปร่งใส ทำให้เห็นอาหารภายในได้อย่างชัดเจน แต่ไม่ทนต่อความร้อนสูง จึงไม่ควรนำเข้าไมโครเวฟ
    • การใช้งาน: นิยมใช้ในการเก็บอาหารเย็น เช่น สลัด ผลไม้ หรือของหวานที่ต้องการเก็บในตู้เย็น
    • ความเหมาะสม: เหมาะสำหรับการจัดเก็บอาหารที่ต้องการคงความสดใหม่ เหมาะกับร้านอาหารหรือบุคคลที่ต้องการจัดเก็บอาหารในลักษณะที่ดูสวยงามและปลอดภัยในระยะสั้น
  3. บรรจุภัณฑ์ใส่อาหารพลาสติก HDPE (High-Density Polyethylene)
    • คุณสมบัติ: HDPE มีความทนทานต่อการกระแทกและสารเคมี สามารถเก็บอาหารได้ในอุณหภูมิที่ไม่สูงมาก แต่ไม่แนะนำให้นำเข้าไมโครเวฟ
    • การใช้งาน: เหมาะสำหรับการเก็บอาหารแห้งหรืออาหารที่ไม่ต้องการอุ่นร้อน เช่น ขนมปัง แซนวิช หรืออาหารที่ใช้ในการเดินทาง
    • ความเหมาะสม: เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการกล่องข้าวที่มีความแข็งแรง ทนทาน และสามารถเก็บอาหารได้ในสภาพแวดล้อมหลากหลาย
  4. บรรจุภัณฑ์ใส่อาหารพลาสติก PS (Polystyrene)
    • คุณสมบัติ: พลาสติก PS มีน้ำหนักเบาและราคาถูก แต่ไม่ทนความร้อนสูง มักใช้ในกล่องบรรจุอาหารที่ใช้ครั้งเดียว
    • การใช้งาน: นิยมใช้ในการใส่อาหารสำเร็จรูปหรืออาหารที่ต้องการเก็บในระยะเวลาสั้นๆ เช่น อาหารจานด่วน อาหารขายตามร้านสะดวกซื้อ
    • ความเหมาะสม: เหมาะสำหรับการใช้งานชั่วคราว เช่น งานเลี้ยง หรืองานที่ต้องใช้กล่องข้าวจำนวนมากในงบประมาณที่ประหยัด

ข้อดีของบรรจุภัณฑ์อาหารชนิดพลาสติก

  • บรรจุภัณฑ์พลาสติกมีราคาที่ค่อนข้างถูก เมื่อเทียบกับบรรจุภัณฑ์กระดาษ
  • ตัวพลาสติกมีคุณสมบัติเหนียว และน้ำหนักเบา
  • บรรจุภัณฑ์พลาสติกไม่นำความร้อน และกระแสไฟฟ้า
  • ตัวบรรจุภัณฑ์พลาสติกใส่อาหารสามารถป้องกันการรั่วซึมของอากาส และน้ำได้ดี
  • บรรจุภัณฑ์พลาสติกสามารถทนทานต่อความชื้น และไม่เป็นสนิม
  • สามารถพิมพ์ลวดลาย และ Logo หรือแบรนด์ลงบนตัวกล่องได้

ข้อเสียของบรรจุภัณฑ์อาหารชนิดพลาสติก

  • บรรจุภัณฑ์พลาสติกที่ถูกผลิตขึ้นโดยไม่ได้มาตรฐานพอ จะทำให้เกิดการปนเปื้อนของสารเคมี และส่งผลต่ออาหารที่ตัวกล่องรองรับได้
  • ตัวบรรจุภัณฑ์พลาสติกใช้เวลาย่อยสลายยาวนานกว่า 300 ปี
  • กล่องโฟมใส่อาหารเป็นปัญหาต่อสิ่งแวดล้อม และสัตว์ป่า เนื่องจากตัวกล่องโฟมไม่สามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ
  • บรรจุภัณฑ์พลาสติกส่งผลให้เกิดมลภาวะทางขยะ และส่งผลร้ายต่อสิ่งแวดล้อม
  • บรรจุภัณฑ์พลาสติกบางชนิดแตกหักได้ง่าย

3. บรรจุภัณฑ์อาหารใช้แล้วทิ้งชนิดกล่องกระดาษ

กลยุทธ์ ออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้ปัง สร้างยอดขายอย่างยั่งยืน

บรรจุภัณฑ์ใส่อาหารชนิดกระดาษเป็นบรรจุภัณฑ์ชนิดใหม่ที่นิยมใช้งานสูงในปัจจุัน ทั้งในร้านค้า ร้านอาหารเล็กไปจนถึงร้านใหญ่ๆ โดยตัวบรรจุภัณฑ์นอกจากถูกนำไปใส่อาหารแล้วยังถูกนำไปเป็นบรรจุภัณฑ์ใส่สิ่งต่างๆอีกมาก เช่น กล่องเก็บเอกสาร, กล่องไปรษณีย์, แก้ว, ชาม และถ้วยเป็นต้น

บรรจุภัณฑ์กระดาษใส่อาหารจะถูกผลิตขึ้นมาด้วยเยื่อกระดาษชนิดต่างๆ โดยจะมีคุณสมบัติแตกต่างกันออกไปตามเกรดของกระดาษที่นำมาเป็นวัสดุ พัฒนาและผลิตขึ้นมาเพื่อนำมาทดแทนบรรจุภัณฑ์ชนิดเก่าจำพวกกล่องโฟม และกล่องพลาสติก เนื่องตัวกล่องกระดาษนอกจากปลอดภัยต่อผู้บริโภค ไม่มีสารเคมีปนเปื้อนในตัวบรรจุภัณฑ์แล้ว ยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และสามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติด้วย

ข้อดีของบรรจุภัณฑ์อาหารชนิดกระดาษ

  • บรรจุภัณฑ์กระดาษเป็นบรรจุภัณฑ์รักษ์โลก ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และสัตว์ป่า
  • ตัวบรรจุภัณฑ์ถูกผลิตขึ้นมาจากกระดาษทำให้สามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ
  • สามารถเลือกพิมพ์ลวดลายต่างๆ หรือ Logo และแบรนด์ร้านของคุณลงบนตัวกล่องได้
  • สร้างความแตกต่าง และเพิ่มภาพลักษณ์ให้กับธุรกิจ
  • น้ำหนักเบา เหมาะสำหรับขนส่ง
  • บรรจุภัณฑ์กระดาษสามารถต้านไขมัน และน้ำมันได้
  • ออกแบบหรือเลือกรูปทรงของตัวกล่องกระดาษได้ตามต้องการ
  • ตัวบรรจุภัณฑ์กระดาษสามารถนำไปรีไซเคิลใช้งานใหม่ได้ 100%

ข้อเสียของบรรจุภัณฑ์อาหารชนิดกระดาษ

  • ตัวบรรจุภัณฑ์กระดาษป้องกันความชื้น หรือน้ำได้ไม่ดีนัก
  • ไม่ทนทารต่อการเจาะ ทะลุเท่าบรรจุภัณฑ์พลาสติก
  • ราคาจะสูงกว่าบรรจุภัณฑ์พลาสติก และกล่องโฟม

บรรจุภัณฑ์ใส่อาหารใช้แล้วทิ้งชนิดนี้เหมาะสำหรับธุรกิจอะไรบ้าง

บรรจุภัณฑ์อาหารใช้แล้วทิ้งเหมาะกับธุรกิจอาหารทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ที่มีบริการที่ร้านอาหารที่ขายอาหารสำเร็จรูป, อาหารที่ห่อกลับบ้านได้ หรือที่เรียกว่า Take away เนื่องจากบริการเหล่านี้จำเป็นจะต้องมีบรรจุภัณฑ์เพื่อรองรับอาหาร และเครื่องดื่มชนิดต่างๆ เพื่อรองรับบริการนี้ นอกจากนี้บรรจุภัณฑ์ใส่อาหารที่ใช้ครั้งเดียวนั้นมีประเภทและคุณสมบัติที่แตกต่างกันอย่างที่กล่าวไว้ในหัวข้อด้านบน เพราะฉะนั้นควรเลือกชนิดบรรจุภัณฑ์ให้เหมาะสมกับธุรกิจร้านอาหารของคุณครับ

ทำอย่างไรให้บรรจุภัณฑ์ชนิดนี้ โดดเด่นเหนือคู่แข่งได้

บรรจุภัณฑ์อาหารชนิดใช้แล้วทิ้งที่ถูกใช้งานบ่อยมากที่สุดจะเป็นกล่องโฟม หรือกล่องอาหารพลาสติกใสที่มีรูปทรงเหมื่อนๆกันไปหมด ทำให้เมื่อลูกค้าพบเห็นบรรจุภัณฑ์จะไม่รู้สึกประทับใจหรือดึงดูดอะไรเลยนอกเสียจากอาหารภายใน เพราะฉะนั้นจะดีกว่าไหมถ้าบรรจุภัณฑ์ที่ใส่อาหารของคุณนั้นสร้างความโดดเด่น และดึงดูดมากกว่าบรรจุภัณฑ์ทั่วๆไป

บรรจุภัณฑ์ที่โดดเด่นเริ่มได้ง่ายๆจากการเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นแบบรักษ์โลกหรือผลิตขึ้นมาจากกระดาษ ซึ่งมีคุณสมบัติที่ย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติและยังมีรูปลักษณ์ตัวกล่องแตกต่างจากบรรจุภัณฑ์แบบเก่าๆ

นอกเหนือจากนี้บรรจุภัณฑ์ชนิดกระดาษใส่อาหารสามารถพิมพ์ลวดลายและ Logo หรือแบรนด์ลงบนตัวบรรจุภัณฑ์ได้ ทำให้สามารถสร้างความสวยงาม แตกต่างจากบรรจุภัณฑ์ชนิดอื่นๆที่ลูกค้าใช้งานอยู่อย่างแน่นอน

สรุป

บรรจุภัณฑ์อาหารใช้แล้วทิ้ง คือบรรจุภัณฑ์ที่นิยมใช้มากที่สุดในปัจจุบันเนื่องมาจากมีราคาให้เลือกตั้งแต่ถูกมากไปจนถึงราคาสูง ทำให้เข้าถึงได้ทั้งร้านค้า ร้านอาหารทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ โดยตัวบรรจุภัณฑ์ชนิดนี้จะแบ่งออกได้สามชนิดด้วยกันคือ บรรจุภัณฑ์อาหารชนิดกล่องโฟม, บรรจุภัณฑ์อาหารชนิดพลาสติก และบรรจุภัณฑ์อาหารชนิดกล่องกระดาษ ทั้งสามบรรจุภัณฑ์นี้มีคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไปตามราคา ควรเลือกซื้อใช้งานให้เข้ากับอาหารและธุรกิจของคุณ

ซึ่งหากคุณต้องการสร้างความโดดเด่น และโฆษณาแบรนด์ฺธุรกิจของคุณไปด้วย ผมขอแนะนำให้ใช้บรรจุภัณฑ์ชนิดกระดาษที่พิมพ์ลวดลาย และ Logo แบรนด์ของคุณลงไปบนตัวกล่อง ซึ่งเป็นบรรจุภัณฑ์ชนิดใหม่ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน สังเกตได้จากร้านค้า ร้านอาหารใหญ่ต่างๆเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ชนิดกันทั้งนั้น หากสนใจบรรจุภัณฑ์อาหารชนิดกระดาษสามารถเลือกชมสินค้าได้ที่ hongthaipackaging.com/food-beverage-packaging/

แนะนำสินค้าจากโรงงาน

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า | แจ้งยกเลิกการประมวลผลข้อมูล

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์และโฆษณา

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลวส่วนบบุคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ Cookies ที่เราใช้งานได้แก่ Google Analytics และ Facebook Pixel

บันทึกการตั้งค่า